<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_saowanit_after99.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> คุณหมอเสาวนิตย์กับกิจกรรมใหม่

วิ่งมานานก็เบื่อหยุดไปนานก็อยากวิ่ง

 

                                                                                                                                                                  โดยคุณหมอเสาวนิตย์ กมลธรรม

 

คุณหมอเสาวนิตย์และคนรู้ใจ(น.พ.ธวัชชัย กมลธรรม )

 

คนเราส่วนใหญ่เมื่อทำอะไรซ้ำซากไปนานๆมักจะเบื่อ และอยากจะเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง หยุดไปนานก็อยากกลับมาทำอีกแต่ด้วยความรู้สึกที่อาจจะแตกต่างจากครั้งแรก

ผู้เขียนก็เช่นเดียวกัน วิ่งแข่งมาเกือบ 4 ปี ก็ไม่อยากแข่ง อยากหยุด หยุดไปเกือบปีก็อยากกลับมาวิ่งอีก แต่ด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิม อยากพบปะสังสรรค์กับนักวิ่งคนอื่นๆ

อยากมีความสุขและสนุกสนานหลังการวิ่ง มิใช่ความหวังอยากได้รางวัล

อยากเล่าประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวซึ่งอาจจะแตกต่างจากผู้อื่น เมื่อนักวิ่งไปเล่นกีฬาอย่างอื่นเปรียบเทียบกับการวิ่ง คือ หลังจากที่ผู้เขียนได้ถ้วยรางวัลครบ 99 ใบ

ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ เมื่อกันยายน 2544 ผู้เขียนก็ยังคงออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการวิ่งเหมือนเดิม แต่สลับกับการเต้นแอโรบิคซึ่งไปฝึกและเต้นที่สวนลุมพินีในวันเสาร์และอาทิตย์

บางครั้งก็ไปว่ายน้ำที่สระน้ำแถวประชาชื่น ผู้เขียนว่ายน้ำเป็นอยู่แล้วแต่ว่ายไม่ได้ไกลนัก

เมื่อเริ่มเต้นแอโรบิค ผู้เขียนรู้สึกว่าเรื่องกำลังขา สภาพความทนทานของหัวใจและปอดของนักวิ่งดีกว่านักเต้น ไม่เหนื่อยง่ายเต้นได้เป็นชั่วโมง บางครั้งเต้นเสร็จยังไปวิ่งต่อ

ได้อีก แต่สภาพกำลังแขนแย่หน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่ทำงานเบาๆ เขียนหนังสือ 
งานบ้านก็ไม่ค่อยได้ทำ เช่นผู้เขียนเป็นต้น เมื่อยแขนมากในช่วงแรก นึกแล้วก็พอๆกับ

เมื่อยขาตอนที่เริ่มหัดวิ่งใหม่ๆ ฉันใดฉันนั้น อีกทั้งการประสานงานระหว่างแขนและขาค่อนข้างยากโดยเฉพาะเมื่อแขนขาไปคนละทิศทาง
เช่นแขนแกว่งไปทางซ้ายขวา แต่ขาไปทางหน้าหลัง ต้องตั้งใจและมีสมาธิพอสมควรในการทำตามครูผู้สอน
มากกว่าการวิ่ง ในบางครั้งถ้าเราตึงเครียด หงุดหงิดเราก็ยังออกวิ่งได้ วิ่งไปเรื่อยๆ กลับหายเครียด แต่ถ้าไปเต้นแอโรบิค

อาจจะทำตามครูผู้สอนไม่ทัน เต้นไปก็ไม่สนุก ยิ่งเต้นอาจจะยิ่งเครียดมากขึ้น

ข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือ การได้เพื่อนใหม่น้อยกว่าการวิ่ง เพราะเวลาเต้นคุยไม่ได้ เสียงเพลงก็ดังและไปรบกวนสมาธิการเต้นผู้อื่น (ถ้าคุยได้ก็อาจเต้นไม่รู้เรื่อง) เต้นเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ และมีอย่างหนึ่งที่นักเต้นมักจะทำ คือ โห่หรือตะโกนเสียงดังๆและยาวๆเมือรู้สึกว่ามีความสนุกสนาน
หรือเพลงเร้าใจมากๆ ส่วนนักวิ่งจะมีความสุขถ้าวิ่งเข้าเส้นชัยได้ในระยะทางและเวลาที่กำหนด

สำหรับการว่ายน้ำผู้เขียนไม่สามารถประสบความสำเร็จในการฝึกหัดจนมาเล่าได้เป็นเรื่องราวมากนัก ผู้เขียนไปว่ายน้ำกับลูกสาวซึ่งเขาถนัดในทางนี้ พบข้อแตกต่างว่าเขาสามารถว่ายน้ำติดต่อกันเป็นระยะทางเป็นกิโลเมตรโดยไม่หยุด 
ประมาณ30-45 นาทีได้แต่เขาวิ่งได้ระยะทาง 3กิโลเมตร แค่20-25 นาที เขาก็บอกว่าเหนื่อยแทบจะขาดใจ ในขณะที่ผู้เขียนสามารถวิ่งได้เป็น 10 กิโลเมตร ในเวลา45-55 นาทีโดยไม่เหนื่อยมากนัก แต่ว่ายน้ำหยุดๆ ว่ายๆ เป็นชั่วโมงยังได้ไม่ถึงระยะทาง 1 กม. เหนื่อยแทบขาดใจเหมือนกัน ผู้เขียนได้พยายามฝึกอยู่ 2-3 เดือน รู้สึกว่าจะยากที่จะฝึกหายใจในน้ำ รวมทั้งห่วงผิวหน้าที่คล้ำลงจากคลอรีน ก็เลยเป็นอันยุติการว่ายน้ำไป อันที่จริงแล้วผู้เขียนอยากใคร่ขอให้นักกีฬาไตรภาคี ซึ่งต้องฝึกทั้งการวิ่งและการว่ายน้ำ
ได้เขียนประสบการณ์เล่ามาให้นักวิ่งฟังบ้าง 

ขอขอบคุณล่วงหน้าแด่ผู้ที่จะเขียนมาเล่าให้ฟัง

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของนักวิ่ง เมื่อไปทัวร์ไม่ว่าในเมืองไทยหรือเมืองนอกก็ตาม อย่าลืมเอารองเท้าวิ่งไปด้วย จะได้กำไรจากการท่องเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวคนอื่นๆ สถานที่บางแห่งเราได้ไป 2 ครั้งแต่คนอื่นได้ไปครั้งเดียว เพราะเราตื่นแต่เช้าไปเที่ยวมาแล้ว 1 รอบ

ขณะนี้ผู้เขียนเริ่มมีเวลาว่าง ไม่ต้องรับภาระเรื่องลูกซึ่งผู้เขียนถือว่าเป็นหน้าที่อันสำคัญอย่างยิ่งของความเป็นแม่ และด้วยความคิดถึงนักวิ่งทุกท่าน จะเริ่มมาสนุกสนานกับการวิ่งในสนามอีกครั้ง โดยไม่มีการตั้งเป้าหมายรางวัลใดๆทั้งสิ้น เพื่อความสุข สุขภาพ สังคม รางวัลได้ก็เป็นของแถม ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร งานแรกต้อนรับวันแม่ วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข เป็นงานของชมรมแม่บ้านสาธารณสุข ในฐานะที่ผู้เขียนก็เป็นสมาชิกของแม่บ้านสาธารณสุข
จังหวัดแพร่ ไม่ใช่เพชรบูรณ์ (อย่าเข้าใจว่าเขียนผิดนะคะ) ใคร่ขอเชิญชวนนักวิ่งมาร่วมงานกันเยอะๆน่ค่ะ
 แล้วเจอกันค่ะ
 สวัสดีค่ะ

 

( หมายเหตุ.- ขอขอบคุณ คุณหมอเสาวนิตย์   ที่สละเวลาเขียนประสบการณ์หลังจากได้ถ้วย 99 ใบ และไปทำอะไรบ้าง ช่วยทำให้เพื่อนๆ นักวิ่งได้ทราบข่าวของคุณหมอนักวิ่งคนเก่งคนนี้ และดีใจค่ะที่คุณหมอกลับมาสู่สนามวิ่งอีกครั้งเพื่อนๆนักวิ่งอีกหลายๆท่านก็รู้สึกดีใจที่เพื่อนเก่าคืนสู่เหย้า

เรียนคุณไก่และคุณยิ้มที่นับถือ

ต้องขอโทษด้วยค่ะที่หายไปนานไม่ได้เขียนบทความมาลงตามที่สัญญาไว้ ขณะนี้ภาระเรื่องรับส่งดูแลลูกไม่มี เพราะน้องไบรท์ ไปศึกษาภาษาอังกฤษต่อที่

ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลา 1ปี เพิ่งเดินทางไปเมื่อกลางเดือนกรกฏาคมนี้เอง เขียนเรื่องส่งมาแต่ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ชื่อเรื่องอะไรดี วานรบกวนอ่านแล้วตั้งชื่อให้ด้วยก็แล้วกันนะคะ

 

 

สัมภาษณ์ น.พ.สมนึก  ตปนียวรวงศ์  หรือ คุณหมอ -=Jfk=-

ไตรกีฬา...กีฬาหมูๆ

จ๊อกกลิ้ง

 

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่8 ส.ค.45<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>