โดย...พ.ญ.เสาวนิตย์ กมลธรรม
เด็กส่วนใหญ่เมื่อยังเล็กชอบวิ่งเล่น แต่มักจะถูกผู้ใหญ่บอกให้อยู่นิ่ง อย่าซน ครั้นโตขึ้นเริ่มขี้เกียจ ไม่ชอบวิ่ง และชอบขึ้นบันได ชอบขึ้นลิฟท์ นั่งรถขับรถ ช่วงหนุ่มสาวยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร ครั้นแก่ตัวเริ่มเลข 3 โดยเฉพาะผู้หญิง ร่างกายเริ่มเมื่อยล้า ไม่กระฉับกระเฉง เหมือนเก่า จึงเริ่มมาคิดถึงเรื่องวิ่งอีกครั้งหนึ่ง
พูดถึงเรื่องวิ่ง คงไม่มีใครไม่เคยวิ่ง สมัยก่อนที่ผู้เขียนยังไม่ได้วิ่ง มินิมาราธอน เห็นพวกนักวิ่งก็นึกในใจอยู่ว่า จะไปทรมานวิ่งให้เหนื่อยทำไม เมื่อยขาเปล่า น่าเบื่อวิ่งซ้ำซาก เล่นกีฬาอย่างอื่นยังมีลูกเล่น ลูกชน
จนกระทั่งผู้เขียนอายุได้37ปี มีอาการปวดเมื่อยหลังจากการทำงาน ปวดหลัง เวียนหัว จึงได้เริ่มออกวิ่ง วิ่งได้ 200 เมตร เหมือนใจจะขาด หายใจไม่ทัน หลังจากนั้นค่อยๆ ฝึกซ้อม จากช้า ๆ ระยะทางสั้น ๆ ไปจนถึงเร็วขึ้นระยะทางยาวๆ ด้วยความ ขยัน อดทน
ดังนั้นถ้าผู้ใดที่ ยังไม่ได้วิ่งแล้วคิดว่าวิ่งไม่ไหวหรอก ขอให้เลิกคิดได้และเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
หลังจากที่เริ่มออกวิ่งได้ 5 เดือน ก็ได้ระยะทาง 3 กม.โดยไม่หยุด ร่างกายดีขึ้นมาก หายปวดเมื่อย หายเวียนหัว ประสิทธิภาพใน การทำงานดีขึ้นกว่าเดิม จากประสบการณ์ของตัวเอง อยากแนะนำผู้เริ่มวิ่งว่าให้ฝึกทุกวันด้วยความเร็ว ช้าๆ และระยะทางจากสั้นๆค่อยๆเพิ่มขึ้นโดยไม่ให้ร่างกายบาดเจ็บจะทำให้มีความสุขในการออกกำลังกาย
สำหรับผู้เขียนเองเริ่มวิ่งแข่งขัน 10 กม.หลังจากที่ได้ฝึกวิ่งเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่ได้ตั้งใจคือบังเอิญที่เพชรบูรณ์ มีการจัดวิ่งต้านยาบ้า 10 กม. เกิดความอยากลองว่าตัวเองจะวิ่งไหวหรือไม่เพราะเคยวิ่งแค่ระยะ 8 กม. บังเอิญได้ที่ 3 (58 นาที) เกิดความอยากลองวิ่งอีก ช่วงแรกก็นานๆ วิ่งครั้งพอลูกสาว ลูกชายเข้ามาเรียนใน กรุงเทพฯ ก็เลยถือโอกาส ทุกเสาร์-อาทิตย์มาดูแลลูกเป็นงานหลักและวิ่งมินิมาราธอนเป็นงานอดิเรก
สิ่งที่ได้จากการวิ่งไม่เพียงแค่สุขภาพเท่านั้น ได้สังคมกว้างขึ้น รู้จักคน ต่างวัยต่างอาชีพ ได้ทำบุญกุศลร่วมกับผู้จัดที่นำเงินไปช่วยในด้านต่างๆ
ผู้เขียนจึงขอแนะนำให้ผู้อ่านที่ยังไม่ได้คิดจะวิ่งหรือคิดแล้วแต่ยังไม่ได้วิ่ง
เริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพของตัวท่านเอง
ผู้เขียนยินดีที่จะตอบคำถามของผู้อ่านในฐานะที่เป็นนักวิ่ง
และหมอคนหนึ่งด้วยความเต็มใจเท่าที่ความสามารถจะมีได้ค่ะ
อ่านสัมภาษณ์คุณหมอเสาวนิตย์ งานวิ่ง เฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา สมเด็จพระยุพราช 23 กรกฎาคม 2543 ณ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่ 7 มิ.ย.44<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_diary_rujira.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %>