งานวิ่ง เฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา สมเด็จพระยุพราช
23 กรกฎาคม 2543 ณ กระทรวงสาธารณสุข

สัมภาษณ์ พ.ญ.เสาวนิตย์ กมลธรรม (งานสาธารณสุข)

thairunning    คุณหมอกรุณาแนะนำตัวด้วยค่ะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ดิฉันแพทย์หญิงเสาวนิตย์ กมลธรรม แพทย์ทั่วไป สามีชื่อ นายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม ศัลยแพทย์ เป็นรองสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนดิฉันเปิดโพลีคลีนิคที่เพชรบูรณ์มา 15 ปีแล้วค่ะ มีบุตร 2 คน เรียนชั้น ม.2 กับ ม.3 ที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน
thairunning    คุณหมอมีแรงจูงใจอะไรคะที่มาวิ่งออกกำลังกาย
พ.ญ.เสาวนิตย์    ตัวเองได้รับอุบัติเหตุเมื่อปี 2531 ซี่โครงหัก 5 ซี่ ทิ่มปอด เลือดออกเต็มปอด กระดูกหน้าหัก ตอนนี้ก็ยังใส่เหล็กอยู่ ต้องอยู่ในห้อง ICU 4 คืน ตอนนั้นร่างกายมันแย่ พอหาย ดี ก็เลยเริ่มออกกำลังกาย พอออกกำลังกายไปนานๆ ออกไปทีละนิดเพื่อสุขภาพ มันก็เริ่มดีขึ้น ๆ ที่ปวดหัว ปวดตัว เหมื่อยเนื้อ เหมื่อยตัว ก็หายไป ร่างกายดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็วิ่งออกกำลังกายมาเรื่อย ๆ ประมาณ 1 ปี และก็ไม่ได้ตั้งใจจะแข่งขัน บังเอิญเขามีวิ่งแข่งขันกันที่สวนไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ก็ลองเข้าร่วมแข่งขันดู ปรากฎว่า ได้ ที่ 3 ก็เลยเกิดกำลังใจว่า ถ้าเราฝึกซ้อมเรื่อย ๆ เราก็น่าจะแข่งได้ ต่อมาก็มีแข่งขันต้านยาบ้าที่เพชรบูรณ์อีก ก็ไปวิ่ง 10 กิโล ก็ได้รางวัลที่ 2 อีก ก็เลยทำให้ยิ่งมีกำลังใจ ก็เลยฝึกไปเรื่อย ๆ และก็เริ่มมาลงสนามกรุงเทพ
thairunning    คุณหมอเริ่มวิ่งตั้งแต่อายุเท่าไรค่ะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ตั้งแต่ตอนอายุ 37 ปี ปัจจุบันอายุ 40 ย่าง 41 ปี แล้วค่ะ แต่เริ่มมาเข้าแข่งขันประมาณ 2 ปีหลังนี้เอง เนื่องจากลูกๆ เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ
thairunning    ถ้วยรางวัลที่ได้รับในวันนี้เป็นใบที่เท่าไร่แล้วคะ และคุณหมอพอใจกับเวลาที่ทำในวันนี้แค่ไหนค่ะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ใบที่ 52 แล้วค่ะ วันนี้ได้รางวัลที่ 2 ทำเวลาได้ 44 นาที วันนี้ทำเวลาได้ดีที่สุด ตั้งแต่แข่งขันมา ทำเวลาได้พอใจมากค่ะ
thairunning    คุณหมอจะซ้อมวิ่งตอนไหนค่ะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ซ้อมวิ่งตอนเช้า ๆ ประมาณ ตีห้า และก็ 7 โมงเช้าก็เปิดคลีนิค ทำงานเลย ทำงานได้ทั้งวันเลย จนกระทั่งถึง 4 โมงเย็น ได้ออกกำลังกายแล้วทำให้เราไม่เหน็ดเหนื่อย ทำงานได้ดี ทำงานได้ตลอด ไม่เจ็บ ไม่ป่วย
thairunning    ทราบว่าก่อนหน้านี้คุณหมอเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย
พ.ญ.เสาวนิตย์    ค่ะ เคยเป็นโรคภูมิแพ้ 12 ปี ปัจจุบันหายไปเลย และที่เหน็ดเหนื่อย ที่อ่อนเพลีย ก็หายไปหมด สุขภาพดี แข็งแรง และยังชักชวนให้คนไข้มาวิ่งออกกำลังกายด้วยค่ะ
thairunning    คุณหมอเข้ามากรุงเทพฯแทบทุกเสาร์-อาทิตย์ หรือคะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ค่ะวันเสาร์และอาทิตย์ เข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาดูแลลูกๆ ซึ่งเป็นหน้าที่หลัก ส่วนหน้าที่รอง ก็คือวิ่ง ในวันเสาร์-อาทิตย์ นี่วิ่งเสร็จก็ต้องรีบไปรับลูก ในทุกอาทิตย์นี่ เราได้ทำงาน 5 วัน เราได้ทำหน้าที่แม่ เราได้ออกกำลังกายเพื่อตัวเราเองด้วย ถือว่าชีวิตนี้สมบูรณ์แล้ว พี่นี่ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอ ให้เขาเรียนอะไรก็ได้ แต่ขอให้เขาเป็นคนดี เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเขามีความสุขกับงานที่เขาทำ เป้าหมายที่สำคัญ 3 อย่างในชีวิต ของพี่คือ ตอนเรียน ก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด พอมาเป็นหมอก็ทำงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สุดท้ายก็ทำประโยชน์ให้สังคม พี่เริ่มตั้งมูลนิธิ แพทย์หญิงเสาวนิตย์ กมลธรรม เมื่อปี 2540 เพื่อเด็กยากจน เริ่มมอบทุนการศึกษาให้เด็กเมื่อตอนพี่อายุ 40 ปีพอดี พี่คิดว่า หนึ่ง เรามีงานทำ เรามีความสุข กับการทำงาน สองสุขภาพร่างกายดี อันที่สามมีประโยชน์ต่อสังคม สามสิ่งนี้ในชีวิตพี่สมบูรณ์แล้ว
thairunning    คนที่มีจิตกุศลโดยเฉพาะชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ อยากจะช่วยเด็กยากจน จะบริจาคเข้ามูลนิธิได้ที่ไหนคะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    ได้ที่มูลนิธิพ.ญ.เสาวนิตย์ กมลธรรม อยู่ที่สำนักงานประถมศึกษา อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ หรือโทร.ไปที่ คลีนิคพ.ญ.เสาวนิตย์ โทร.731293 ค่ะ
thairunning    ในฐานะที่เป็นคุณหมอ อยากฝากถึงประชาชนเรื่องการเอาใจใส่สุขภาพ และเรื่องอาหารการกิน อย่างไรบ้างคะ
พ.ญ.เสาวนิตย์    อยากฝากบอกว่า สุขภาพดี ไม่มีขาย เพราะฉะนั้นอย่าหวังไปซื้อยา ซี้ออะไรมากิน ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเราจะแข็งแรง พวกอาหารเสริม หรืออาหารบำรุงต่าง ๆ พี่ไม่เคยกินซักอย่าง เปล่าประโยชน์ทั้งนั้น เราควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินถั่วเหลือง พวกธัญพืช กินผัก กินผลไม้มาก ๆ ส่วนมากพี่จะกินผัก กินปลา พวกเนื้อหมู กับไก่ จะกินน้อยมาก ข้อสำคัญพวกของหวานกับของมัน ควรหลีกเลี่ยง และที่สำคัญต้องทำจิตใจให้แจ่มใส มองโลกในแง่ดี เท่านี้ชีวิตเราก็มีความสุขแล้ว

 

สัมภาษณ์คุณสายพิณ (ปิ๊ก) พัตจุน (23 ก.ค. ในงาน วิ่งเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา สมเด็จพระยุพราช)

thairunning  คงใกล้คลอดเต็มที่แล้วใช่มั๊ยคะ
คุณสายพิณ  ค่ะ 9 เดือนกว่า จะขึ้น 10 เดือน แล้ว ยังไม่ยอมคลอดซะที เป็นท้องแรกค่ะ
thairunning  ไปอุลตร้าซาวหรือเปล่าคะ
คุณสายพิณ  ไปอุลตร้าซาวมาค่ะ เป็นผู้ชาย
thairunning  ปัจจุบันทำงานที่ไหนคะ และมาขายรองเท้าวิ่งเสาร์-อาทิตย์
คุณสายพิณ  มาขายรองเท้าวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็รับราชการ พิทักษ์เป็นทหารอากาศ อยู่กรมช่าง ยศพันจ่าอากาศเอก ยังไม่ได้ร้อยตรีเลย (หัวเราะ) ปีนี้ได้ ซี 4 ค่ะ เพิ่งทำงานได้ 2 ปี ส่วนปิ๊กอยู่กรมราชทัณฑ์ อยู่เรือนจำกลางคลองเปรม ใครมีปัญหาอะไร (หัวเราะเสียงดัง) มาได้นะคะ อยู่ฝ่ายจำแนกค่ะ
thairunning  คุณสายพิณช่วยบอกเทคนิคการซ้อมวิ่งหน่อยซิคะ
คุณสายพิณ  ถ้าเป็นนักวิ่งระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 10 กิโล ไม่ใช่นักวิ่งแข่ง นักกีฬา หรือนักวิ่งที่มีพรสวรรค์มาก อยากให้ซ้อมยืนพื้นเลย 40 -45 นาที ทุกวัน เพราะนักวิ่งแนวหน้าระยะ 10 กิโล ก็วิ่งประมาณ 40 นาทีอยู่แล้ว และจะวิ่งแข่งเท่าไรก็วิ่งเท่านั้น เช่น แข่ง 10 กิโล วิ่ง 40 นาที หรือไม่ควรต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง หมายถึงว่า เช้า-เย็น แต่ถ้า นักวิ่งที่ทำงานไม่ค่อยมีเวลา อย่างน้อย ตอนเย็นต้องซ้อมวิ่งทุกวัน ไม่ใช่ว่าจะแข่งแล้วถึงมาซ้อม 2 วัน อยากให้นักวิ่งเพื่อสุขภาพ มาซ้อมวิ่งทุกวัน วันละ 40 นาที แต่ถ้าอย่างพวกปิ๊กนี่ได้รางวัล ต้องวิ่งจริงจัง ซ้อมหนัก ลงคอร์ด รองเท้าต้องดี ทุกอย่างต้องดีหมด สำหรับนักวิ่งอาชีพ เดือนหนึ่ง จะแข่งขันทุกอาทิตย์ทั้ง 4 วัน ในหนึ่งเดือนนี่ ไม่ดีนะ เราต้องเลือกโปรแกรมในการแข่งขัน แต่ถ้าวิ่งเพื่อสุขภาพนี่ไม่เป็นไร แข่งทุกอาทิตย์ได้ เพราะนักวิ่งอย่างพวกปิ๊กนี่ ถ้าวิ่งต้องจริงจัง การบาดเจ็บจะเยอะ เพราะจะต้องStart แรง ออกแรง อย่างพิทักษ์เนี่ย อาทิตย์ที่แล้วเขาจะไม่ลง จะมาลงแข่งอาทิตย์นี้ วิ่งแข่งอาทิตย์เว้นอาทิตย์จะดี แต่จะต้องซ้อมทุกวันเลย
thairunning  อย่างคุณพิทักษ์นี่ซ้อมยังไงคะ
คุณสายพิณ  พิทักษ์นี่ซ้อมทุกวันเลย อย่างจะแข่งวันอาทิตย์ วันเสาร์นี้ต้องหยุดวิ่ง ส่วนวันศุกร์ก็ Jogging สบาย ๆ
thairunning  การซ้อมของคุณพิทักษ์ ถ้าวิ่ง 21 ก.ม.จะซ้อมประมาณวันละกี่กิโลคะ
คุณสายพิณ  พิทักษ์จะซ้อมวิ่งไม่ต่ำกว่า 12 กิโล หรือ 15 กิโล ยืนพื้น ต่อวันเลยนะคะ พิทักษ์จะวิ่งหนักในวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ หนัก 3 วัน ส่วนวันอังคาร กับวันพฤหัส วิ่งไม่หนัก วิ่งช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่าง20 กิโล คุณจะวิ่งไปชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงก็ได้ แต่วิ่งไปเรื่อย ๆ ให้ถึง 20 กิโลอย่างเนี่ย เวลาจะนานเท่าไรก็ได้
thairunning  ส่วนมากจะซ้อมช่วงไหนคะ
คุณสายพิณ  ช่วงเช้าอากาศจะดี เราจะได้ไม่เหนื่อยมากในการวิ่ง ส่วนช่วงเย็นอากาศจะร้อน ก็จะเริ่มซ้อมประมาณตี 5 อย่างพิทักษ์นี่ เค้าวิ่งซ้อมยืนพื้น 15 กิโล ก็ใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมง 1.10 หรือ 1.15 หมายถึงซ้อมเพื่อจะวิ่งแข่ง 21 กิโลนะ ส่วนพวกนักวิ่งเพื่อสุขภาพทั่วๆ ไปก็ต้องซ้อม หนึ่งชั่วโมงขึ้นไป กี่กิโลช่างมัน แต่ถ้าวิ่งแข่ง 10 กิโล ก็ต้องซ้อมยืนพื้น 40 นาที