กลยุทธ์การฝึกซ้อมไปสู่แชมป์
การฝึกวิ่งเพื่อเป็นแชมป์ มันเป็นสิ่งที่ไม่ยาก และไม่ง่ายนัก สำหรับนักกีฬาวิ่งเพื่อสุขภาพ หรือ สมัครเล่น
ซึ่งการวิ่งทุกวัน วันละมาก ๆ ก็ไม่อาจเป็น นักกีฬาที่สุดยอดได้ หรือ การเก็บตัวฝึกซ้อมที่ดี มีวินัย ร่างกายแข็งแรง มีประสบการณ์ และอุปกรณ์ ฝึกซ้อมดี แต่ใจไม่เกินร้อย ก็ทำให้ล้มเหลวในการสู่แชมป์ได้
ตารางการฝึกวิ่งของนักวิ่งแนวหน้า แนวหลัง ค่อนข้าง แตกต่างมาก โดยเฉพาะความสามารถพิเศษ หรือพรสวรรค์ เป็นสิ่งแรก ที่เป็นตัวชี้ว่า เป็นนักวิ่งที่เก่ง หรือ ไม่เก่งได้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว การซ้อมที่ดี ควรมีตาราง หรือคอร์ตในการวิ่ง เพื่อสู่เป้าหมายที่แน่นอน
ตารางฝึกวิ่ง 5 km. 10 km. ถีง 21 km. ควรแบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะที่ 1 การฝึกวิ่งเพื่อเก็บระยะทางให้มากที่สุด และเน้นความอดทน โดยใช้เวลาฝึกซ้อม 45 วัน
วันจันทร์ - ศุกร์ | ให้ฝึกวิ่ง 10- 15 km. ทุกเช้า |
วันเสาร์ | ให้วิ่งทางไกล 20-25 km |
วันอาทิตย์ | พัก |
ระยะที่ 2 ฝึกวิ่ง เน้นความอดทน ลดระยะทาง บวกความเร็ว 50 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้เวลาฝึกซ้อม 30 วัน
วันจันทร์ พุธ ศุกร์ | ให้ฝึกวิ่ง 10 -15 km. ทุกเช้า |
วันอังคาร พฤหัส | เน้นสปีด |
วันเสาร์ | วิ่งทางไกล 18 - 20 km. |
วันอาทิตย์ | พัก |
ระยะที่ 3 ระยะสุดท้ายใกล้แข่ง เน้นระบบ การหายใจ ต่อเนื่อง เหมือนแข่งจริง เน้นความอดทน เพิ่มสปีด และเน้นการพักในการซ้อม แต่ละช่วงให้น้อยลงโดยใช้เวลาฝึกซ้อมระยะที่ 3 เพียง 14 วันเท่านั้น
จันทร์ พุธ ศุกร์ | เน้นสปีดพิเศษ |
วันอังคาร - พฤหัส | วิ่งทางไกล 8 - 12 km |
วันเสาร์ | 12 -15 km. |
วันอาทิตย | พัก |
เพื่อนนักวิ่งคนใดสนใจตารางวิ่งแบบ 3 ระยะ ก็ลองทดสอบดูนะครับ
( หมายเหตุ thairunning.com ขอขอบคุณ คุณพิทักษ์ พัดจุน อดีตนักวิ่งทีมชาติ ที่เจียดเวลาอันน้อยนิด (เพราะมีภารกิจมากมาย และกำลังเป็นคุณพ่อลูกอ่อน น้องทักษิณ วัยเพียง 2 เดือน ) เขียนจากประสบการณ์ฝึกซ้อมส่วนตัวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 ก.ย 2543 และฝากคุณสายพิณ พัดจุน มาให้ เมื่อ 1 ต.ค 43 งานวิ่ง ร.พ.นพรัตน์ )