<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_thai_runner_in_paris_marathon.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> Thai runner  in  Paris  Marathon

 

 

Thai runner  in  Paris  Marathon

 

                             ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่นักเขียนอาชีพ แต่คุณไก่ (รุจิรา )บอกว่าเห็นไปวิ่งเมืองนอกเมืองนามา อยากให้เขียนประสบการณ์ วิ่งในต่างแดน ให้เพื่อนๆนักวิ่งบางท่านที่ยังไม่มีโอกาสได้ทราบบ้าง

 

การสมัครและการหาข้อมูล    

 

 

ในยุคปัจจุบันการหาข้อมูลใน internet ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งไม่จะมีการแข่งขันมาราธอนที่ไหน โดยมากก็จะมี websit ของตนเอง ผู้เขียนก็เช่นเดียวกัน กรอกข้อมูลตามที่ผู้จัดต้องการ รวมทั้งการชำระเงินด้วย ซึ่งก็เคยทราบมาว่าการกรอกหมายเลขบัครเครดิต บน Internet เป็นเรื่องอันตราย แต่บางครั้งก็ยอมเสี่ยงเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และทราบผลทันที

ค่าสมัครวิ่งปกติเขาก็จะมีระยะเวลากำหนดว่าเราสมัครเมื่อไหร่เสียเท่าไหร่

และที่สำคัญแพงด้วย เพราะฉะนั้นต้องแน่ใจก่อนว่าเราจะไปวิ่งแน่นอน จะได้ไม่ต้องเสียค่าสมัครฟรี โดยมากถ้าเราสมัครแล้วไม่ไป เขาก็ไม่คืนเงิน

ค่าสมัครที่ Paris Marathon ( 1 FRF ประมาณ 6 บาท )

1 Sept 2000- 30 Nov 2000 FRF 325.- หรือ 1950.- บาท

1 Dec 2000 – 31 Jan 2001 FRF 385 หรือ. 2,310.- บาท

1 Feb 2001 – 18 Mar 2001 FRF 445 หรือ 2,670.- บาท

 

งานวิ่งโดยทั่วไปก่อนวันวิ่งเค้าจะจัดให้มีการพบปะสังสรรค์ ขายสินค้า แนะนำนักวิ่งดัง ๆ ระดับหัวแถวที่คาดว่าจะได้รับชัยชนะ รวมทั้งการแนะนำโปรแกรมการวิ่งตามสถานที่ต่าง ๆ และ เป็นสถานที่เดียวกับการการรับเบอร์และของที่ระลึก สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับการแข่งขันที่มีผู้คนเข้าร่วมกันเป็นหมื่น ๆ คือ “ ชิบ " ที่ใช้ผูกกับรองเท้าใช้สำหรับ เช็คเวลา หรือเช็คพ้อยท์ ลักษณะการทำงานก็เหมือนกับในซุบเปอร์มาเก็ตในบ้านเราทุกวันนี้ ตอนที่พนักงานเก็บเงินค่าสินค้าแต่ละชิ้นโดยใช้บาร์โค้ตผ่านเครื่องคิดเงิน “ ชิบ “ ของแต่ละคนจะมีระหัสอยู่ในนั้นเมื่อวิ่งผ่านเครื่องก็จะบันทึกข้อมูลการวิ่งของเราว่าเราเริ่ม ณ. จุดสตารท์เท่าไหร่ วิ่งมาถึงที่เครื่องนี้ใช้ระยะเวลาเท่าไร บ้านเรายังไม่เคยเห็นใครใช้คิดว่าคงลงทุนค่าเยอะ ขอฝากไปยังท่านผู้จัดงานวิ่งบ่อย ๆ ในบ้านเรา ถ้ามีการยกระดับเรื่องการเช็คพ้อยท์ก็จะเป็นการพัฒนานักวิ่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง ลักษณะของ “ ชิบ “ ก็เป็นพลาสติก แข็งซึ่งบันทึกข้อมูลนักวิ่งอยู่ในนั้น บางงานเค้าให้เช่า แต่ที่นี้เค้าให้ยืม ถ้าใครไม่คืนเค้าก็ไม่บอกผลให้เพราะฉะนั้นทุกคนที่ยืมต้องคืน

 

ตอนแรกผู้เขียนก็นึกว่า เค้าเริ่มวิ่ง เวลา 11.00 น เหมือนเมืองอื่น ๆ ในยุโรปที่เคยไปวิ่ง เช่น Berlin , Venice , Cologne ฯลฯ ปรากฏว่าเค้าเริ่ม ตอน 09.00 น. เรื่องนี้ก็เกือบอดได้วิ่งในงานนี้แล้ว ผู้เขียนตื่นนอน 06.00 ก่อนไปก็ต้องหาอะไรรองท้องไปก่อนเพราะถ้าใครเคยวิ่งมาราธอนมาแล้ว จะทราบว่าเมื่อเราใช้พลังงานไปสักพัก ร่างกายต้องการพลังที่ทดแทนพลังงานที่เราใช้ โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็นและ มื้อก่อนวิ่งสำคัญมากขอย้ำ เหมือนกับที่ผู้เขียนได้เจอกับตัวเองมาครั้งนี้

 

เรื่องมีอยู่ว่าก่อนแข่งหนึ่งวันผู้เขียนก็อยากไปเห็นจุด start ที่ Avenue Foch ใกล้กับ Champs-Elysees หรือที่บ้านเราชอบเรียก ประตูชัย  

ด้วยความยินดีและดีใจเพื่อนชาวฝรั่งเศส ที่เป็นไกด์จำเป็นก็เชิญผู้เขียนไปทานอาหารฝรั่ง แถวย่าน Champs-Elysees ซึ่งราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มีคำว่าถูกอยู่แล้ว เราก็บอกว่าวันนี้เราต้องการทานข้าวสวยเหมือนในเมืองไทย ซึ่งในร้านย่านนี้ไม่มีอยู่แล้ว เขาก็ไม่เข้าใจว่ามาถึงที่นี้แล้วทำไมไม่ทานอาหารร้านแถวนี้ซึ่งดีเลิศประเสริฐศรี ใช่ว่าจะได้ทานบ่อย ๆ จนในที่สุดผู้เขียนก็ยอมแพ้ก็ต้องไปนั่งหน้าบูดในร้านอาหารชั้นเลิศ  แต่คนดีผีคุ้ม ร้านที่เลือกนี้ บริการช้ามาก  นั่งประมาณ 10 นาทียังไม่มีอะไรให้ดูเลย ก็เป็นโอกาสของผู้เขียนเสนอให้ไปทานที่ร้านอาหารไทย หรือ จีน ในที่สุดก็ได้ทานข้าวสวยสมใจ แต่ ยังไม่วาย ที่จะพลาด เพราะ เผลอทานมะม่วงไปครึ่งลูก oh..la  la  ตอนทานอร่อยแต่ผลออกมาไม่สวยเลย ตอนเช้าตื่นมาหลังจากทำภาระกิจส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยและ ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดิน  อาการเริ่มน่าเป็นห่วง มะม่วงเจ้ากรรมเริ่มออกอาการ    ถึงสถานีที่ค่อนข้างใหญ่ หาห้องน้ำไม่เจอก้อเลยต้องไปหาห้องน้ำตามร้านอาหาร

ปรากฎว่าเช้านี้ไม่มีร้านไหนเปิดเลย  คิดดูเลยต้องไปใช้บริการของห้องน้ำที่ผู้จัดการวิ่งเตรียมไว้ให้

oh..my god ! Clint Eatwood (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือป่าว )ผู้เขียนชอบเพี้ยน เป็น Clean is good !! ห้องน้ำมีประมาณ 20 ห้อง มีคนต่อคิวห้องละ 30-40 คน คิดดูเมื่อไหร่จะถึงคิวเรา แต่ก็ต้องรอ จนถึงที่สุด ห้องน้ำใจกลางเมือง Paris ท่ามกลางนักวิ่งเป็นหมื่น ๆ ไม่มีน้ำ ไม่มีกระดาษ ไม่มีอะไรเลยนอกจากประตูและหลุม (ทอง) ชั่วคราว ว้าว ว้าว กี่คนต่อกี่คนที่เข้าก่อนหน้าผู้เขียนรวบรวมกลิ่นอินเตอร์ให้ผู้มาทีหลังไดัพิสูจน์ ย่านนี้ไม่มีดารา Hollywood เลย clean is good ไม่มา

เพราะฉะนั้นอยาก จะแนะนำเพื่อน ๆ ที่รักความสะอาดทั้งหลายว่า ถ้ามีโอกาสได้ไปวิ่งต่างประเทศถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าเค้าจัดห้องน้ำเป็นอย่างไรก็ควรทำธุรกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยจากที่พักและก้อเตรียมตัวป้องกันไว้ให้ดี

 

 

 

ผู้คนเกือบ 30,000 คน มารวมตัวกันที่กลางใจเมือง Paris มีเสียงโฆษกประกาศด้วยเสียงอันเร้าใจพร้อมกับเปิดเพลงจังหวะมัน มัน ให้นักวิ่งได้ยืดเส้นยืดสายเป็นที่สนุกสนาน

ตอนสตาร์ทมีการนับถอยหลังเป็นภาษาฝรั่งเศส  จาก 12 จนถึง 1 เป็นอันว่า Paris marathon ครั้งที่ 25 ได้เริ่มขึ้นแล้ว พอดีเสื้อที่ใส่มีคำว่า Bangkok อยู่ ก้อได้เจอเพื่อนนักวิ่งจากเมืองลาวที่ได้พำนักอยู่ในฝรั่งเศส เข้ามาทักทาย ก็รู้สึกดีใจ ได้เว้าภาษาลาวผสมฝรั่งเศส

ระหว่างการวิ่ง 42.195 กม ได้เห็นเมือง Paris ต้องยอมรับว่าเมืองนี้สวยงามมากจริง ๆ สมกับเป็นแม่แบบให้หลายประเทศลอกเลียบแบบ บ้านเราก้ออยู่แถวถนนราชดำเนิน การบริการให้น้ำและของกินระหว่างการวิ่งต้องยอมรับว่าเค้าครบสมบูรณ์แบบจริงจริง คนที่ให้อาหารเราก็ต้องใส่ถุงมือ เครื่องดื่ม ก้อมีทั้งน้ำเกลือแร่ น้ำร้อน น้ำเย็น น้ำเปล่า เป็นขวดขวดนะ อาหารก็มีผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล ฯลฯ

 

ตลอดระยะทางการวิ่งมีคนให้กำลังใจตลอดทาง ลักษณะของเส้นทางการวิ่งมีทั้งทางเรียบ ทางโค้ง ทางแคบ ทางกว้าง เนินเล็ก เนินน้อย เรียบแม่น้ำ ผ่านสวนสาธารณะ ลอดอุโมงค์ (ไม่แน่ใจผ่านอุโมงค์ที่ ไดอาน่า สิ้นพระชนม์หรือเปล่า ) ผ่านย่านที่สำคัญของเมือง (ยกเว้นหอไอเฟิลที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทาง ) ผู้เขียนวิ่งไปก็ชมเมืองไปด้วย

จริงจริงแล้วผู้เขียนมา Paris ก้อหลายครั้งก็เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่ได้เห็นเมืองนี้อย่างทั่วถึง และก็ต้องบอกอีกครั้งว่าสวยงามจริง ๆ ตลอดระยะเวลาการแข่งขันฝนตกตลอดคิดดูก็แล้วกันปกติฝนไม่ตก อากาศก็หนาวเย็นสำหรับเราซึ่งมาจากเมืองร้อน อากาศประมาณ 7-10 องศา บวกฝน และลม (บางช่วง) อื้อหือมันหนาวเย็นจับใจดีจริง ๆ ตลอดระยะเวลาการวิ่งปัญหาของผู้เขียนซึ่งเตรียมตัวมาเจออยู่แล้วก็คือ อากาศหนาวเย็นมาก และเราไม่ค่อยคุ้นกับอากาศลักษณะนี้ เป็นผลทำให้เวลาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ระยะทาง 42.195 กม ได้เจอหลายบรรยากาศ มีวงดนตรีบรรเลงชุดเล็ก ชุดใหญ่ บรรเลงตลอดทาง เสียงผู้คนส่งเสียงเชียร์มีมากมายหลายหลากภาษา แต่ไม่มีภาษาไทยเลยสักคำ นึกสมน้ำหน้าตัวเอง เสือกมาวิ่งที่ไม่มีคนไทย ทำไม (ฮา) คำที่ได้ยินบ่อยก็คือ บราโว่ และผู้คนอีกเป็นหมื่น ๆ คิดดูผู้วิ่ง ประมาณ 28,000 คน บวกญาติของแต่ละคนอีก และผู้ชมโดยทั่วไปแล้วอีกเท่าไหร่

 อีกอย่างหนึ่งสำหรับญาติที่จะไปเชียร์ถ้าเดินทางไปกับนักวิ่งสำหรับงานใหญ่ ๆ อย่างนี้เผื่อหากันไม่เจอ ควรจะเตรียมธงหรือป้าย ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เพราะช่วงระหว่างการวิ่งนี้เรามองหากันจะยากมาก เหตุผลเดิมคือคนเยอะม้าก มาก เผื่อบางทีอาจจะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 

ในที่สุดก็มาถึงเส้นชัย พอดีผู้เขียนได้เตรียมธงชาติไทยไปโบกสะบัดกลางใจเมือง Paris โฆษกไม่ทราบว่ามาจากไหน เลยต้องตะโกนบอก “ ไทยลองเด้”

พอเข้าเส้นชัยเป็นธรรมเนียมของทุกที่ก็ต้องมีเหรียญ เครื่องดื่ม และของกิน การจัดการ ณ.จุดนี้เค้าให้ความสำคัญกับญาติที่มารอรับโดยมีป้ายตามตัวอักษร ปักไว้เผื่อหากันไม่เจอก็ไปรอ ณ.ตัวอักษรชื่อเรา เช่น Phot

ก็ไปยืนรอ ณ.ตัวอักษร P

สุดท้ายผู้เขียน ต้องขอขอบคุณทางทีมงาน thairunning.com ได้เปิดโอกาสให้ผู้เขียนได้นำเสนอบางแง่บางมุมของประสบการณ์การวิ่งเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อนักวิ่งแถวหน้า แถวหลังไม่มากก็น้อย

 

 

 

 

พจน์ คำทิพย์

khamthip@hotmail.com

 

 

 

 

ตั้งแต่ 7 มิ.ย.44<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_diary_rujira.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %>