น้องศรศักดิ์ (sornsak@dbzmail.com) อายุ 15 ปี ได้ส่งเรื่องราวอันเป็นเหตุจูงใจ ที่ทำให้มาวิ่งออกกำลังกาย และน้องก็ทำเวลา ได้ดีในการวิ่ง 10 กิโลเมตร ผมว่าเป็นจูงใจที่แปลกน่าสนใจเลยลงในเพื่อนๆ ได้อ่าน ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนเกิดกำลังใจ ที่จะลุกขึ้นมาวิ่ง อย่างน้อง ศรศักดิ์บ้าง

แรงจูงใจของ ศรศักดิ์

ผมจะเล่าประวัติที่ทำให้อยากวิ่ง

ตอนนั้นผมอยู่ ม.2 ห้อง king มีแต่พวกเด็กเรียน ความจริงผมก็ไม่ใช่เด็กเรียนอะไรนักหรอก พอถึงชั่วโมงพละซึ่งเป็นชั่วโมง ที่ผมดีใจมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำได้ดี กว่าเรื่องเรียนที่ไม่ค่อยดีนัก

และวันหนึ่งครูให้สอบวิ่งรอบสนามที่โรงเรียนซึ่งผมก็วิ่งได้ดี แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะผมยังเซ็งเรื่องเรียนที่ทำคะแนน น้อยมาก ต่างกับเพื่อนๆ ในห้อง แต่มีเพื่อนผมคนหนึ่งชื่อ อาร์ม  เป็นคนที่เรียนเก่งมาก บางครั้งผมเรียนไม่เข้าใจเขาก็จะช่วยสอนผมเสมอ แต่หัวผมมันไม่ดีเอง รับไม่ค่อยได้ อาร์ม ก็บอกว่า " ถึงนายจะเรียนไม่เก่งแต่นายก็วิ่งเร็ว " ผมจึงเกิดประกายความคิดว่า อาร์ม ถึงจะเรียนเก่ง แต่ก็วิ่งช้ากว่าผม คนแต่ละคนในโลกเก่งไม่เหมือนกัน มันต้องรอเวลาหรือโอกาสที่เขาได้รับ แต่ว่าในเมื่อผมมีพรสวรรค์ไม่สิ มีความชอบวิ่ง อยู่แล้วทำไมไม่เอามันมาใช้ละ แต่ตอนนั้นผมก็ได้แต่คิด....

พอผมขึ้นมา ม.3 ผมก็มาอยู่ห้องปกติ (ไม่ใช่ห้อง king) ผมมีความรู้สึกเป็นกันเองในกลุ่มเพื่อนมากกว่าตอนอยู่ห้อง king จนมี เพื่อนสนิทหลายคน เพื่อนๆในกลุ่มผมต่างก็สนใจเรื่อง computer มาก บางครั้งพอสอบเสร็จพวกเราก็จะไปเล่นเกม com ด้วยกันตามร้าน อินเตอร์เน็ตคาร์เฟ่ วันหนึ่งในห้องมีเพื่อนมาบอกผมว่า ชั่วโมงพละจะมีการสอบวิ่งรอบสนาม 5 รอบ ตอนนั้นห้องผมสอบเป็นห้องสุดท้าย เพราะเรียนช้ากว่าห้องอื่นเพื่อนๆ ห้องอื่นเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โครตเหนื่อย ผมก็เฉยๆ ก่อนหน้าที่จะสอบวิ่ง หนึ่งสัปดาห์ ผมก็ลองฝึก วิ่งจาก ร.ร.ไป ศูนย์การค้าสยาม แต่ตอนนั้นก็วิ่งไปเดินไป ฝึกอย่างนี้ 2 วัน และวิ่งขึ้นบันได 5 ชั้น 3 รอบ (ตอนนั้นยังไม่จริงจังสักเท่าไร) พอถึงวันแข่ง ผมแข่งเป็นกลุ่มสุดท้าย มีประมาณ 8-9 ในกลุ่มของผมก็มีนักบอล 4 คน แต่ละคนอึดมากครับ พอวิ่งรอบแรกๆ ผมก็ตามหลัง พวกนักบอล วิ่งตามฝีเท้านักบอล พยายามไม่ให้ห่างมาก พอรอบที่ 3 เพื่อนคนอื่นๆ ก็หลุดไปไกลเพราะแรงหมด ส่วนผมก็ตามบี้นักบอล  
4 คน แทบตายและเมื่อถึงรอบสุดท้ายผมดีใจมาก แต่พออีก 200 กว่าเมตร จะถึงเส้นชัย ผมไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย พวกนักบอลแต่ละคน ต่างออมแรงไว้ใช้ตอนนี้ พวกเขาวิ่งเร็วมาก ขนาดผมวิ่งตามจังหวะเท้าของเขา ผมยังเหนื่อยมาก และแล้วผมก็ได้ที่ 5 ผมเหนื่อยแทบขาดใจ พอหันมาดูเพื่อนคนอื่นเขาก็เดินกันแล้ว และในใจผมก็คิดว่า
"เราทำดีที่สุดแล้ว เราทำดีที่สุดแล้ว "