<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_sex_with_sport.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> เซ็กซ์กับกีฬา

"เซ็กซ์" กับ "กีฬา" และนานาทรรศนะ

 

หนึ่งในปัญหาโลกแตกของวงการกีฬาโลกที่ยืนยาวเก่าแก่ที่สุดเห็นจะเป็นประเด็นที่ว่า

"การมีเซ็กซ์ก่อนการแข่งขัน ทำให้นักกีฬาเล่นได้ดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่?"

คนแรกที่เปิดประเด็นนี้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรก็คือผู้เฒ่าไพลนี่ นักประวัติศาสตร์ยุคโรมันซึ่งเขียนไว้ในตอนหนึ่งของบันทึกประวัติศาสตร์เมื่อคริสตศักราช 77 ว่า

"การเมกเลิฟช่วยให้นักกีฬาที่เชื่องซึมเฉื่อยชากลับมีชีวิตชีวาแม้แต่น้ำเสียงที่แหบแห้งก็ยังมาสดชื่นแจ่มใส"

และนับแต่นั้น ประเด็นนี้ก็กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง คนที่เห็นด้วยมีมากพอๆกับคนที่ต่อต้านต่างฝ่ายต่างหยิบยกเหตุผลมาโต้เถียงกันอย่างเข้มข้น

เมื่อลองย้อนสำรวจประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลกดูอีกครั้ง ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากมายอาจช่วยให้ใครหลายๆคนหาคำตอบของปัญหานี้ได้

เมื่อปี 1999 ดร.เอ็มมานูเอล แจนนินี่ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยลากิล่าในอิตาลีพิสูจน์ว่า ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนในเพศชายจะเพิ่มสูงมากขึ้น หลังจากกิจกรรมทางเพศ ดังนั้นหากนักกีฬาต้องการจะฮึกเหิมมากกว่าปกติ

ก็จงมีเซ็กซ์ซะ!

ด้าน นิก เฟลโลว์ส แห่งศูนย์การแพทย์ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศอังกฤษกล่าวว่า ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ละคนย่อมมีผลตอบรับที่แตกต่างกันไป

จากการวิจัยของศูนย์การแพทยระหว่างปี 1980-1983  ไม่พบความแตกต่างที่พอจะเป็นหลักฐานทางแพทย์ได้แต่อย่างใด

ดร.ปอมปิลู โปเปสคู แพทย์ประจำทีมชาติโรมาเนียช่วงฟุตบอลยูโร 2000 เล่าให้นักเตะฟังถึงทฤษฏี " วัวธรรดากับวัวกระทิง"

"วัวธรรมดาจะสงบเสงี่ยมกว่าเพราะมันถูกตอนแล้ว ขณะที่วัวกระทิงจะเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เนื่องจากฮอร์โมนต่างๆยังสูบฉีดอยู่ทั่วร่างกาย"

แล้วหญิงกับชายต่างกันมากมายหรือไม่ ?

อเล็กซานเดอร์ โอลชานีตสกี้  นักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอล  รายงานว่า  ผู้หญิงจะเล่นกีฬาได้ดียิ่งขึ้นหลังจากบรรลุถึงจุดแล้ว โดยเฉพาะนักวิ่งและกระโดดไกล

ว่ากันเรื่องทฤษฏีไปแล้ว มาถึงเรื่องปฏิบัติจริงกันบ้าง

โอนิกบินเด้ อาคินบียี  กุนซือทีมชาติไนจีเรียชุดฟุตบอลโลก 2002 ประกาศกฏเหล็กกับลูกทีมทุกคนว่า

"นักเตะของผมจะต้องมีสภาพจิตใจและร่างกายที่แข็งแกร่ง ซึ่งนั่นหมายถึงการรู้จักหักห้ามใจตัวเองให้อยู่ห่างจากสตรีเพศ เพราะพวกผู้หญิงคือสิ่งล่อใจที่ทำให้นักเตะทุกคนไขว้เขวอยู่เสมอ"

แล้วเป็นไง? ไนจีเรียตกรอบแรกไปอย่างพลิกความคาดหมาย และโอนิกบินเด้โดนเด้งออกจากตำแหน่ง

แคลเมนส์ เวสเตอร์ฮอฟ หนึ่งในทีมงานของโอนิกบินเด้บอกว่า

" ผมว่าที่ทำให้นักเตะล้าน่ะไม่ใช่เซ็กซ์หรอก น่าจะเป็นวันเฝ้านับวันคืนรอให้มีเซ็กซ์ได้สักทีมากกว่า"

และถ้ามองในมุมของนักเตะกันบ้าง โรมารีโอ้ อดีตดาวยิงทีมชาติบราซิลกล่าวว่า ดาวซัลโวดีๆจะสามารถยิงประตูได้ก็ต่อเมื่อได้มีเซ็กซ์ดีๆ ในคืนก่อนหน้าการแข่งขัน"

เช่นเดียวกับ จอร์จ เบสต์ อดีตนักเตะอัจฉริยะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเตด ที่กล่าวสนับสนุนว่า

"เซ็กซ์ไม่มีผลกระทบกับฟอร์มการเล่นของผมเลยสักนิดเดียว แต่ว่าการมีเซ็กซ์ก่อนแข่งสักชั่วโมงหนึ่งคงไม่ช่วยให้เกิดผลสักเท่าไร แต่ถ้าสักคืนก่อนหน้าคงจะเหมาะ"

ทำไมเบสต์จึงจับประเด็นเรื่องระยะเวลาการมีเซ็กซ์ก่อนแข่งมากล่าวอ้าง?

นั่นเป็นเพราะในปี 1970 ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพ ระหว่างแมนฯยูกับลีดส์  เบสต์เล่นไม่ออกเอาซะเลย ก่อนที่จะมีคนจับได้ตอนหลังว่า ไม่ถึงชั่วโมงก่อนกรรมการเป่านกหวีดเริ่มแข่งขัน เบสต์มัวแต่กุ๊กกิ๊กอยู่กับสาวงามนางหนึ่ง

แต่ไม่ใช่นักเตะทุกคนจะสนับสนุนให้มีเซ็กซ์ก่อนแข่งไปเสียทั้งหมด

เฟรดริก ลุงเบิร์ก  กองกลางทีมชาติสวีเดนของอาร์เซนอลปรารภว่า

"ถ้าคืนก่อนแข่งผมมีเซ็กซืละก็ วันนั้นขาจะแข็งวิ่งไม่ออกเลยครับ"

นอกจากนักฟุตบอลแล้ว นักกีฬาประเภทอื่นๆ ก็ให้ทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์เอาไว้อย่างน่าฟังเช่นกัน

ลินฟอร์ด คริสตี้ นักวิ่งเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกบอกว่า

"การงดเซ็กซ์จะช่วยให้คุณกระชุ่มกระชวยเอามากๆ ผิดกับ บ๊อบ บีมอน นักกระโดดไกลระดับตำนานที่เล่าว่า

"ครั้งเดียวที่ผมมีเซ็กซก่อนแข่งคือในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่เม็กซิโกในปี 1968 และวันรุ่งขึ้นผมก็สร้างสถิติโลกใหม่ที่ยืนยงยาวนานถึง 23 ปีเต็ม"

ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าเราลองมองหานักกีฬาที่นำ " เซ็กซ์"มาเป็นประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด เห็นจะมีแตแจ๊กกี้ สจวร์ต นักแข่งรถมืออาชีพ ที่จะคว้าตำแหน่งนี้ไปครองได้

"สำหรับผม การพาหญิงสาวไปถึงจุดก็เหมือนกับการเข้าโค้งงามๆตอนแข่ง คุณต้องเป็นหนึ่งเดียวกับรถมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นถึงใจ"

ส่วนนักกีฬาที่ไม่ยอมแตะต้องหญิงใดก่อนการแข่งขันเป็นอันขาดเลยก็คือ นักมวย ร็อกกี้ มาร์เซียโน่

นักมวยชื่อก้องต้องแยกเตียงนอนกับภรรยาเป็นเดือนก่อนจะขึ้นสังเวียนสักครั้งหนึ่ง

ขณะที่ มูฮัมหมัด อาลห่างจากสาวๆนานๆ 6 สัปดาห์

ทีเด็ดที่สุดเห็นจะเป็น พรีโม่ คาร์เนร่า ที่ต้องเอาผ้าพันของลับไว้ทุกครั้งก่อนเข้านอน

พูดกันถึงแต่เรื่องก่อนแข่งขัน  แต่ไม่ค่อยจะมีคนเอ่ยถึง " เซ็กซ์ระหว่างแข่งขัน" สักเท่าไร หลายคนอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว

พอล  ฮันเตอร์  โดนคู่แข่งทิ้งห่างไป 6-2 ในการแข่งขันสนุกเกอร์เบนสัน แอนด์ เอดจส มาสเตอร์ส รอบชิงชนะเลิศปีที่แล้ว  เขาลุกออกจากเก้าอี้เพื่อพักทำใจ  เวลาแวบเดียวที่หายไป ฮันเตอร์ก็เริงรักกับ ลินด์เซย์ เฟล แฟนสาวในห้องพักโรงแรมก่อนจะกลับมาชนะการแข่งขัน 10-9

ทฤษฏีนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะ

 

(จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่9 สิงหาคม2545 หน้า30)

 

 

วิ่งออกกำลังกายเตะปิ๊บดังกว่าไวอากร้า

วิ่งชะลอสังขาร

วิ่งพิชิตโรค

 

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่9 ส.ค.45<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>