ใส่รองเท้าอะไรดีshoes2.jpg (4520 bytes)

linesbar.gif (1687 bytes)

             นายยิ้มเริ่มวิ่งแรกๆ ก็ได้รองเท้าผ้าใบ คู่เก่ง ส้นเตี้ยๆ คู่ละ 200 - 300 บาท นี้แหละ ใส่ไปทุกงานไม่ว่าจะใช้เที่ยว หรือเล่นกีฬาแต่ถ้าเพื่อนๆ คนใดที่จะเอาดีทางวิ่ง (หมายถึงวิ่งเป็นประจำ) ก็อยากจะให้พิถีพิถันเลือกรองเท้าอีกซ่ะนิด ค่อยๆ เก็บเงิน เพราะตกคู่ละประมาณ 800 – 4,000 บาท แต่สำหรับความเห็นของ นายยิ้ม แล้วคิดว่า ราคา 1,000 – 2,000 บาท นี้ก็ได้รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับ Jogging แล้ว แต่ถ้าใครเงินหนาจะเล่นคู่ละ 3,000 – 4,000 บาท ก็ตามอัธยาศัย ไม่ว่ากัน เอามาดูกันว่า ควรจะเลือกรองเท้าอย่างไรดี

1.  พื้นรองเท้า

    1.   ควรมีพื้นยางที่ค่อนข้างแข็งด้านนอกและพื้นยางนิ่มด้านใน พื้นส่วนปลายเท้าควรหนา 2 ชั้น ส่วนส้นเท้าควรหนา 3 ชั้น ชั้นกลางลักษณะ  เป็นลิ่มนุ่ม เพื่อเสริมให้ส้นเท้าสูงขึ้นกว่าส่วนปลายเท้าอย่างน้อย ครึ่งนิ้วเพื่อช่วยซึมซับแรงขณะ ส้นกระแทกเป็นการแบ่งเบาภาระกล้ามเนื้อต้นขาและเอ็นร้อยหวาย
    2.   พื้นรองเท้าบริเวณกลางค่อนไปทางปลายเท้าต้องมีความยืดหยุ่นหักงอได้เพื่อความคล่องตัวเวลาส้นเท้ายกจากพื้น และปลายเท้างอ เพื่อตะกุยไปข้างหน้า ทดลองโดยใช้มือลองพับงอบริเวณนั้น ขึ้น – ลง ถ้าทำได้ยากแสดงว่ารองเท้า นั้นแข็งเกินไป ซึ่งจะทำให้เอ็นร้อยหวายอักเสบได้ง่าย
    3.   พื้นรองเท้าด้านนอก ควรมีปุ่มปม สำหรับวิ่งในที่ขรุขระหรือมีลายเป็นลูกคลื่นสำหรับวิ่งในถนนเรียบทั้งนี้เพื่อช่วย ไม่ให้ลื่นและกลืนแรงกระแทกขณะวิ่ง
    4.   พื้นข้างในรองเท้าตรงบริเวณอุ้งเท้า (ส่วนเว้าของฝ่าเท้าด้านใน)ควรเสริมด้วยนวมนุ่มให้เข้ารูปกับอุ้งเท้า เพื่อช่วยป้องกันการอักเสบ ของพังผืดยึดกระดูกฝ่าเท้า
    5.  ส้นรองเท้า จะต้องฝานให้เป็นรูปมนเพื่อช่วยเฉลี่ยแรงกระแทกเมื่อส้นกระทบพื้นและช่วยการม้วนเท้าเพื่อถ่ายน้ำหนัก ไปสู่ปลายเท้า

2.  หุ้มส้น

    1.   บริเวณส่วนบนของหุ้มส้น (รอบเอ็นร้อยหวาย) จะต้องสูงขึ้นและมีแผ่นนุ่มรองรับบริเวณที่ตรงกับเอ็นร้อยหวาย เพื่อป้องกัน การเสียดสีตอนยกส้นเท้าขึ้นจากพื้น
    2.   ด้านข้างบริเวณหุ้มส้นทั้งสองด้านจะต้องแข็งพอที่จะป้องกันการบิดหมุนของส้นเท้า ทำให้บริเวณส้นเท้า เกิดความมั่นคง

3.  ตัวรองเท้า

    1.  รองเท้าหนัง จะมีน้ำหนักมาก และแห้งช้า รองเท้าไนล่อนและผ้าใบ จะมีน้ำหนักเบา แห้งเร็ว ทำความสะอาดง่าย ช่วยผ่อนคลายความร้อนลงได้
    2.   ด้านหน้าของรองเท้าตรงบริเวณรอบนิ้วเท้า ควรเสริมด้วยวัสดุค่อนข้างแข็งเป็นแผ่นด้านนอกโดยรอบ และต้องนูน สูงขึ้นประมาณ 1.5 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วเท้าและเล็บเท้าถูกเบียด ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกใต้เล็บได้
    3.  ลิ้นรองเท้า ต้องบุให้นุ่มและกว้างพอที่จะปิดหลังเท้าได้ทั้งหมดเพื่อป้องกันเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อกระดูกนิ้วเท้า ถูกเสียดสีจนเกิดอักเสบได้
    4.   แกนยาวของรองเท้าต้องเป็นเส้นตรง
    5.  เชือกผูกรองเท้า ภาพหลังผูกเชือกรองเท้าไม่ควรเหลือปลายเชือกยาวเกินไป

4.  ขนาดรองเท้า

ถ้าเป็นไปได้ควรลองใส่รองเท้าขณะสวมถุงเท้าแบบที่จะใช้วิ่ง ลองยืนตรง และเดินและสังเกตดูว่านิ้วเท้าไม่กดกับหัวรองเท้า และนิ้วไม่เกยกัน


ข้อความต่อไปนี้ มาจากกระทู้ถาม-ตอบ เกี่ยวกับเรื่องรองเท้า


ข้อความ :

ใครพอทราบมั้ยครับว่า อายุใช้งานโดยเฉลี่ยของรองเท้านานกี่เดือนกี่ปี หรือ กี่กิโลเมตร
เพื่อน ๆ แต่ละคน เปลี่ยนรองเท้าบ่อยแค่ไหน และมีวิธีทราบได้อย่างไรว่า รองเท้าที่สวมใส่อยู่ หมดสภาพ ต้องเปลี่ยนแล้ว

จาก : พัฒนะพงศ์ - 14/09/2000 18:54


ข้อความ :

พี่พัฒนะพงศ์ครับเรื่องอายุใช้งานของรองเท้านั้น  ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานครับ ถ้ามีรองเท้าอยู่คู่เดียวแล้วขยันซ้อมอาทิตย์ละ 5 วันๆ ละ 10-12 กม. พักซ้อมก่อนแข่ง 1 วัน พอวันอาทิตย์ ก็ไปแข่งอีก (มินิฯ) รวมๆ แล้ว 1 อาทิตย์  ใช้งานรองเท้าไป  60 - 70 กม.

ถ้าเป็นอย่างนี้  ปีเดียวก็ไปแล้วครับ  ส่วนมากรองเท้าคู่หนึ่ง  จะมีอายุใช้งานประมาณ 1 ปี ครับ (ผู้ขายบอกมา) และถามว่ารู้ได้อย่างไร ก็ส่วนใหญ่รองเท้าวิ่ง ที่พื้นจะเป็นยางสีดำๆ  ถ้าสึกจนเลยเข้าไปถึงส่วนที่เป็นฟองน้ำ (สีขาวๆ) มากๆ  แล้วก็เปลี่ยนได้แล้วครับ  เพราะระบบรองรับการกระแทกมันเสื่อมสภาพไปแล้ว

วิธีดูแลรักษาก็ไม่มีอะไรมาก

1.    ควรมีรองเท้าอีก 1 คู่ใส่สลับกันไป
2.    อย่าซักบ่อยๆ ใช้เช็ดแห้งเอาครับแล้วผึ่งลมให้แห้ง (ซักบ่อยๆกาวหลุดหมด)
3.    ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการซ้อมบนพื้นผิวที่เป็นคอนกรีตครับ
4.    ข้อนี้เผื่อไว้ให้ท่านอื่นๆบ้างครับ

จาก : พิบูลย์ - 14/09/2000 21:13


ข้อความ :

ข้อ 4. ต่อจากคุณพิบูลย์ มีนักวิ่งแนวหน้าเคยบอกไว้ว่ารองเท้า
ซ้อม กับรองเท้าลงแข่ง ควรจะคนละคู่กัน (มันต่างกับข้อ 1 ของ คุณพิบูลย์ไหมเนี่ยะ)

จาก : บุบผา - 14/09/2000 21:47


ข้อความ :

รองเท้าแข่งก็เอามาซ้อมได้ เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้ดี แต่จะไม่นำมาซ้อมเป็นประจำ เพราะรองเท้าแข่งส่วนใหญ่จะเบากว่า เป็นประเภทที่เรียกว่า Racing Flat เหมาะในการทำเวลา แต่ไม่ทนทาน เท่ารองเท้าซ้อม (trainer) ที่ค่อนข้างจะหนัก เพราะมี cushion หนากว่า ทำให้ซ้อมได้ยาว และนาน

โดยทั่วไปอายุของรองเท้าจะมีค่าระหว่าง 1,000-3,000 กม ขึ้นอยู่กับน้ำหนักคนวิ่ง และการวิ่งลงเท้าหนักหรือไม่ ควรมีอย่างน้อย 2 คู่ในเวลาเดียวกัน ผมมีถึง 4 คู่ในปัจจุบัน ซ้อม 2 แข่ง 2

จาก : lotus - 14/09/2000 22:17


ข้อความ :

ขอใช้วิชาเก่า ในฐานะเคยเป็นผู้ดูแลเรื่อง"รองเท้าวิ่ง"

อายุการใช้งานของรองเท้าวิ่ง มีปัจจัยกำหนดดังนี้

1. วัตถุดิบที่ใช้ผลิตรองเท้าคู่นั้นๆ เช่น หาก OUTSOLE (พื้นนอกสุด)เป็นวัสดุนุ่มนิ่มก็จะสึกเร็ว หากเป็น ยางพาราสังเคราะห์ ก็จะสึกช้า 1.6-2 ปี

2. MIDSOLE (พื้นกลาง ที่บรรจุเทคโนโลยี่เอาไว้) ทำด้วยอะไร
หากทำด้วย พี.ยู.(PU.= Polyurethane)) จะมีอายุการใช้งานสั้นกว่า PHYLON หรือ EVA

3. รองเท้าวิ่ง เขาทำมาให้ใช้วิ่ง หากเอาไปเก็บไว้เฉยๆ โดยเฉพาะในที่อับร้อน อบอ้าว อายุการใช้งาน จะยิ่งสั้นขึ้นอีก  2  เท่าตัว

4. รองเท้าซ้อม กับ รองเท้าที่ใช้สวมวิ่งแข่งขัน (เฉพาะสำหรับนักวิ่งที่หวังรางวัลนะ) ควรเป็นคนละคู่กัน ส่วน"ไม้ประดับ" หรือ "หางเครื่อง" ใช้คู่เดียวทั้งเที่ยว ทั้งวิ่ง ก็ OK แล้ว...

5. สรุปโดยเฉลี่ย อายุการใช้งาน ที่ใช้งานตามปกตินะ... 1 ปี ครึ่งครับ (ต้องเป็นรองเท้าที่นับเริ่มต้นจากวันที่ออกจากโรงงานไม่เกิน 3 เดือนนะ)

6. วิธีซื้อรองเท้าที่มีอายุการผลิต ให้ดูที่ด้านบน หรือด้านในของ"ลิ้นรองเท้า" จะมี วัน เดือน ปี ผลิต และแหล่ง(โรงงาน)ผลิต

การซื้อรองเท้าให้พอดีเท้า ลองสวมดู (ควรเป็นช่วงบ่ายโมง - บ่าย 3 โมง) แล้วเอานิ้งโป้งกดหัวรองเท้า ให้เหลือจากปลายนิ้วโป้ง 1 หัวแม่มือ พอดี  จึงจะสวมสบายและ"ถูกหลัก"

รองเท้าวิ่งที่ดี ควรเป็นรองเท้า "ผูกเชือก" อย่าใช้รองเท้า "เวลโกร้" (เทปแปะ)

รองเท้าวิ่ง ต่างกับ รองเท้ากีฬาอื่น... เวลาซื้อ ...อย่ามั่ว...มันไม่คุ้ม นะ จะ บอก ให้

จาก : แม่กลอง - 14/09/2000 22:27


ข้อความ :

ผมซ้อมประมาณวันละ 8 กม. หยุด ก่อนและหลังอย่างละ 1 วัน รองเท้าซ้อม  ผมว่าหา รองเท้าที่มีน้ำหนักหน่อย  มีระบบรองรับการกระแทกที่ดี  หนานุ่ม  เราก็จะสบายเท้า เพราะเราซ้อมมากกว่าแข่ง

ส่วนรองเท้าคู่ที่ใช้แข่ง ก็จะเลือกเบาสบาย เพราะเราเจอรองเท้าหนักมาทั้งอาทิตย์ เวลาเราซ้อม พอวันแข่งมาใช้รองเท้าเบา เราจะรู้สึกว่าวิ่งสบาย

แต่ข้อเสียของรองเท้าแข่งคือ ไม่นุ่มเท้า  ถ้าวิ่งทุกวันจะเจ็บเท้าง่ายและทนสู้รองเท้าซ้อมไม่ได้ 

ของผมแข่ง 2 คู่ ซ้อม 3 คู่ ไว้สลับเปลี่ยนวันไหนวิ่งรู้สึกเจ็บส้นเท้า ก็เปลี่ยนคู่ใหม่ในวันรุ่งขึ้น  ก็ได้ผลดี เพราะรองเท้าแต่ละคู่ แต่ละรุ่นไม่เหมื่อนกัน  ตั้งแต่ซื้อ ที่รองส้นเท้า NCR ของนายยิ้มมา  ใช้ทุกวันยิ่งดีใหญ่

อาการเจ็บบริเวณส้นเท้าซึ่งเมื่อก่อนผมจะเจ็บประจำ แต่เดียวนี้หายเลย ผมใช้มาประมาณ  2 อาทิยต์ แล้ว ดีมากครับ รองเท้าของผมอายุประมาณ 8 เดือน ส้นจะสึกผมจะไปให้ร้านซ่อมรองเท้า ทำพื้นเฉพาะจุดที่สึก ก็ดีประหยัดดีเพราะผมซ้อมมาก

จาก : ยิ่งยง - 15/09/2000 07:06