ใส่รองเท้าอะไรดี
นายยิ้มเริ่มวิ่งแรกๆ ก็ได้รองเท้าผ้าใบ คู่เก่ง ส้นเตี้ยๆ คู่ละ 200 - 300 บาท นี้แหละ ใส่ไปทุกงานไม่ว่าจะใช้เที่ยว หรือเล่นกีฬาแต่ถ้าเพื่อนๆ คนใดที่จะเอาดีทางวิ่ง (หมายถึงวิ่งเป็นประจำ) ก็อยากจะให้พิถีพิถันเลือกรองเท้าอีกซ่ะนิด ค่อยๆ เก็บเงิน เพราะตกคู่ละประมาณ 800 4,000 บาท แต่สำหรับความเห็นของ นายยิ้ม แล้วคิดว่า ราคา 1,000 2,000 บาท นี้ก็ได้รองเท้าที่เหมาะสมสำหรับ Jogging แล้ว แต่ถ้าใครเงินหนาจะเล่นคู่ละ 3,000 4,000 บาท ก็ตามอัธยาศัย ไม่ว่ากัน เอามาดูกันว่า ควรจะเลือกรองเท้าอย่างไรดี |
1. พื้นรองเท้า
1. ควรมีพื้นยางที่ค่อนข้างแข็งด้านนอกและพื้นยางนิ่มด้านใน พื้นส่วนปลายเท้าควรหนา 2 ชั้น ส่วนส้นเท้าควรหนา 3 ชั้น ชั้นกลางลักษณะ เป็นลิ่มนุ่ม เพื่อเสริมให้ส้นเท้าสูงขึ้นกว่าส่วนปลายเท้าอย่างน้อย ครึ่งนิ้วเพื่อช่วยซึมซับแรงขณะ ส้นกระแทกเป็นการแบ่งเบาภาระกล้ามเนื้อต้นขาและเอ็นร้อยหวาย |
2. พื้นรองเท้าบริเวณกลางค่อนไปทางปลายเท้าต้องมีความยืดหยุ่นหักงอได้เพื่อความคล่องตัวเวลาส้นเท้ายกจากพื้น และปลายเท้างอ เพื่อตะกุยไปข้างหน้า ทดลองโดยใช้มือลองพับงอบริเวณนั้น ขึ้น ลง ถ้าทำได้ยากแสดงว่ารองเท้า นั้นแข็งเกินไป ซึ่งจะทำให้เอ็นร้อยหวายอักเสบได้ง่าย |
3. พื้นรองเท้าด้านนอก ควรมีปุ่มปม สำหรับวิ่งในที่ขรุขระหรือมีลายเป็นลูกคลื่นสำหรับวิ่งในถนนเรียบทั้งนี้เพื่อช่วย ไม่ให้ลื่นและกลืนแรงกระแทกขณะวิ่ง |
4. พื้นข้างในรองเท้าตรงบริเวณอุ้งเท้า (ส่วนเว้าของฝ่าเท้าด้านใน)ควรเสริมด้วยนวมนุ่มให้เข้ารูปกับอุ้งเท้า เพื่อช่วยป้องกันการอักเสบ ของพังผืดยึดกระดูกฝ่าเท้า |
5. ส้นรองเท้า จะต้องฝานให้เป็นรูปมนเพื่อช่วยเฉลี่ยแรงกระแทกเมื่อส้นกระทบพื้นและช่วยการม้วนเท้าเพื่อถ่ายน้ำหนัก ไปสู่ปลายเท้า |
2. หุ้มส้น
1. บริเวณส่วนบนของหุ้มส้น (รอบเอ็นร้อยหวาย) จะต้องสูงขึ้นและมีแผ่นนุ่มรองรับบริเวณที่ตรงกับเอ็นร้อยหวาย เพื่อป้องกัน การเสียดสีตอนยกส้นเท้าขึ้นจากพื้น |
2. ด้านข้างบริเวณหุ้มส้นทั้งสองด้านจะต้องแข็งพอที่จะป้องกันการบิดหมุนของส้นเท้า ทำให้บริเวณส้นเท้า เกิดความมั่นคง |
3. ตัวรองเท้า
1. รองเท้าหนัง จะมีน้ำหนักมาก และแห้งช้า รองเท้าไนล่อนและผ้าใบ จะมีน้ำหนักเบา แห้งเร็ว ทำความสะอาดง่าย ช่วยผ่อนคลายความร้อนลงได้ |
2. ด้านหน้าของรองเท้าตรงบริเวณรอบนิ้วเท้า ควรเสริมด้วยวัสดุค่อนข้างแข็งเป็นแผ่นด้านนอกโดยรอบ และต้องนูน สูงขึ้นประมาณ 1.5 นิ้ว เพื่อป้องกันไม่ให้นิ้วเท้าและเล็บเท้าถูกเบียด ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกใต้เล็บได้ |
3. ลิ้นรองเท้า ต้องบุให้นุ่มและกว้างพอที่จะปิดหลังเท้าได้ทั้งหมดเพื่อป้องกันเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อกระดูกนิ้วเท้า ถูกเสียดสีจนเกิดอักเสบได้ |
4. แกนยาวของรองเท้าต้องเป็นเส้นตรง |
5. เชือกผูกรองเท้า ภาพหลังผูกเชือกรองเท้าไม่ควรเหลือปลายเชือกยาวเกินไป |
4. ขนาดรองเท้า
ถ้าเป็นไปได้ควรลองใส่รองเท้าขณะสวมถุงเท้าแบบที่จะใช้วิ่ง ลองยืนตรง และเดินและสังเกตดูว่านิ้วเท้าไม่กดกับหัวรองเท้า และนิ้วไม่เกยกัน |
ข้อความต่อไปนี้ มาจากกระทู้ถาม-ตอบ เกี่ยวกับเรื่องรองเท้า
ข้อความ :
ใครพอทราบมั้ยครับว่า
อายุใช้งานโดยเฉลี่ยของรองเท้านานกี่เดือนกี่ปี
หรือ กี่กิโลเมตร
เพื่อน ๆ แต่ละคน
เปลี่ยนรองเท้าบ่อยแค่ไหน
และมีวิธีทราบได้อย่างไรว่า
รองเท้าที่สวมใส่อยู่
หมดสภาพ ต้องเปลี่ยนแล้ว
จาก : พัฒนะพงศ์ - 14/09/2000 18:54
ข้อความ :
พี่พัฒนะพงศ์ครับเรื่องอายุใช้งานของรองเท้านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานครับ ถ้ามีรองเท้าอยู่คู่เดียวแล้วขยันซ้อมอาทิตย์ละ 5 วันๆ ละ 10-12 กม. พักซ้อมก่อนแข่ง 1 วัน พอวันอาทิตย์ ก็ไปแข่งอีก (มินิฯ) รวมๆ แล้ว 1 อาทิตย์ ใช้งานรองเท้าไป 60 - 70 กม.
ถ้าเป็นอย่างนี้ ปีเดียวก็ไปแล้วครับ ส่วนมากรองเท้าคู่หนึ่ง จะมีอายุใช้งานประมาณ 1 ปี ครับ (ผู้ขายบอกมา) และถามว่ารู้ได้อย่างไร ก็ส่วนใหญ่รองเท้าวิ่ง ที่พื้นจะเป็นยางสีดำๆ ถ้าสึกจนเลยเข้าไปถึงส่วนที่เป็นฟองน้ำ (สีขาวๆ) มากๆ แล้วก็เปลี่ยนได้แล้วครับ เพราะระบบรองรับการกระแทกมันเสื่อมสภาพไปแล้ว
วิธีดูแลรักษาก็ไม่มีอะไรมาก
1.
ควรมีรองเท้าอีก 1
คู่ใส่สลับกันไป
2. อย่าซักบ่อยๆ
ใช้เช็ดแห้งเอาครับแล้วผึ่งลมให้แห้ง
(ซักบ่อยๆกาวหลุดหมด)
3.
ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการซ้อมบนพื้นผิวที่เป็นคอนกรีตครับ
4.
ข้อนี้เผื่อไว้ให้ท่านอื่นๆบ้างครับ
จาก : พิบูลย์ - 14/09/2000 21:13
ข้อความ :
ข้อ 4.
ต่อจากคุณพิบูลย์
มีนักวิ่งแนวหน้าเคยบอกไว้ว่ารองเท้า
ซ้อม กับรองเท้าลงแข่ง
ควรจะคนละคู่กัน (มันต่างกับข้อ
1 ของ คุณพิบูลย์ไหมเนี่ยะ)
จาก : บุบผา - 14/09/2000 21:47
ข้อความ :
รองเท้าแข่งก็เอามาซ้อมได้ เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้ดี แต่จะไม่นำมาซ้อมเป็นประจำ เพราะรองเท้าแข่งส่วนใหญ่จะเบากว่า เป็นประเภทที่เรียกว่า Racing Flat เหมาะในการทำเวลา แต่ไม่ทนทาน เท่ารองเท้าซ้อม (trainer) ที่ค่อนข้างจะหนัก เพราะมี cushion หนากว่า ทำให้ซ้อมได้ยาว และนาน
โดยทั่วไปอายุของรองเท้าจะมีค่าระหว่าง
1,000-3,000 กม
ขึ้นอยู่กับน้ำหนักคนวิ่ง
และการวิ่งลงเท้าหนักหรือไม่
ควรมีอย่างน้อย 2
คู่ในเวลาเดียวกัน ผมมีถึง 4
คู่ในปัจจุบัน ซ้อม 2 แข่ง 2
จาก : lotus - 14/09/2000 22:17
ข้อความ :
ขอใช้วิชาเก่า ในฐานะเคยเป็นผู้ดูแลเรื่อง"รองเท้าวิ่ง"
อายุการใช้งานของรองเท้าวิ่ง มีปัจจัยกำหนดดังนี้
1.
วัตถุดิบที่ใช้ผลิตรองเท้าคู่นั้นๆ
เช่น หาก OUTSOLE (พื้นนอกสุด)เป็นวัสดุนุ่มนิ่มก็จะสึกเร็ว
หากเป็น ยางพาราสังเคราะห์
ก็จะสึกช้า 1.6-2 ปี
2. MIDSOLE (พื้นกลาง
ที่บรรจุเทคโนโลยี่เอาไว้)
ทำด้วยอะไร
หากทำด้วย พี.ยู.(PU.= Polyurethane))
จะมีอายุการใช้งานสั้นกว่า
PHYLON หรือ EVA
3. รองเท้าวิ่ง
เขาทำมาให้ใช้วิ่ง
หากเอาไปเก็บไว้เฉยๆ
โดยเฉพาะในที่อับร้อน อบอ้าว
อายุการใช้งาน
จะยิ่งสั้นขึ้นอีก 2
เท่าตัว
4. รองเท้าซ้อม กับ
รองเท้าที่ใช้สวมวิ่งแข่งขัน
(เฉพาะสำหรับนักวิ่งที่หวังรางวัลนะ)
ควรเป็นคนละคู่กัน ส่วน"ไม้ประดับ"
หรือ "หางเครื่อง"
ใช้คู่เดียวทั้งเที่ยว
ทั้งวิ่ง ก็ OK แล้ว...
5. สรุปโดยเฉลี่ย
อายุการใช้งาน
ที่ใช้งานตามปกตินะ... 1 ปี
ครึ่งครับ (ต้องเป็นรองเท้าที่นับเริ่มต้นจากวันที่ออกจากโรงงานไม่เกิน
3 เดือนนะ)
6.
วิธีซื้อรองเท้าที่มีอายุการผลิต
ให้ดูที่ด้านบน
หรือด้านในของ"ลิ้นรองเท้า"
จะมี วัน เดือน ปี ผลิต
และแหล่ง(โรงงาน)ผลิต
การซื้อรองเท้าให้พอดีเท้า ลองสวมดู (ควรเป็นช่วงบ่ายโมง - บ่าย 3 โมง) แล้วเอานิ้งโป้งกดหัวรองเท้า ให้เหลือจากปลายนิ้วโป้ง 1 หัวแม่มือ พอดี จึงจะสวมสบายและ"ถูกหลัก"
รองเท้าวิ่งที่ดี ควรเป็นรองเท้า "ผูกเชือก" อย่าใช้รองเท้า "เวลโกร้" (เทปแปะ)
รองเท้าวิ่ง
ต่างกับ รองเท้ากีฬาอื่น...
เวลาซื้อ ...อย่ามั่ว...มันไม่คุ้ม
นะ จะ บอก ให้
จาก : แม่กลอง - 14/09/2000 22:27
ข้อความ :
ผมซ้อมประมาณวันละ 8 กม. หยุด ก่อนและหลังอย่างละ 1 วัน รองเท้าซ้อม ผมว่าหา รองเท้าที่มีน้ำหนักหน่อย มีระบบรองรับการกระแทกที่ดี หนานุ่ม เราก็จะสบายเท้า เพราะเราซ้อมมากกว่าแข่ง
ส่วนรองเท้าคู่ที่ใช้แข่ง ก็จะเลือกเบาสบาย เพราะเราเจอรองเท้าหนักมาทั้งอาทิตย์ เวลาเราซ้อม พอวันแข่งมาใช้รองเท้าเบา เราจะรู้สึกว่าวิ่งสบาย
แต่ข้อเสียของรองเท้าแข่งคือ ไม่นุ่มเท้า ถ้าวิ่งทุกวันจะเจ็บเท้าง่ายและทนสู้รองเท้าซ้อมไม่ได้
ของผมแข่ง 2 คู่ ซ้อม 3 คู่ ไว้สลับเปลี่ยนวันไหนวิ่งรู้สึกเจ็บส้นเท้า ก็เปลี่ยนคู่ใหม่ในวันรุ่งขึ้น ก็ได้ผลดี เพราะรองเท้าแต่ละคู่ แต่ละรุ่นไม่เหมื่อนกัน ตั้งแต่ซื้อ ที่รองส้นเท้า NCR ของนายยิ้มมา ใช้ทุกวันยิ่งดีใหญ่
อาการเจ็บบริเวณส้นเท้าซึ่งเมื่อก่อนผมจะเจ็บประจำ
แต่เดียวนี้หายเลย
ผมใช้มาประมาณ 2 อาทิยต์
แล้ว ดีมากครับ
รองเท้าของผมอายุประมาณ 8
เดือน
ส้นจะสึกผมจะไปให้ร้านซ่อมรองเท้า
ทำพื้นเฉพาะจุดที่สึก
ก็ดีประหยัดดีเพราะผมซ้อมมาก
จาก : ยิ่งยง - 15/09/2000 07:06