ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่ 31ก.ค.50

การวิ่งที่เป็นการหล่อหลอมขึ้นรูปวุฒิภาวะ

 

โดย   กฤตย์  ทองคง

 

               นักวิ่งสามารถได้รับประโยชน์จากการวิ่ง  เอามาสอนใจด้วยการหล่อหลอมตนเองให้เป็นไปตามความฝันที่วาดหวังเอาไว้ ด้วยความพากเพียรเป็นเชื้อมูล  แต่ต้องเป็นไปอย่างทีละน้อย  ดังน้ำทีละหยด  แต่สม่ำเสมอไม่รู้จบสิ้น  ให้โอ่งที่แสนใหญ่  ให้บ่อที่แสนลึก  ย่อมมีวันเปี่ยมได้แน่

               นอกจากจะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแล้ว  เราก็ยังเร่งรัดอะไรไม่ได้  การบ่มเพาะเรื่องวิ่งนี่เป็นเรื่องที่ต้องอาศัย  ความอดทนให้เป็น  รอคอยให้ได้  ตรงนี้การวิ่งจึงเท่ากับเป็นการขึ้นรูปจิตใจพอๆกับร่างกาย

               และเพราะเป็นอย่างนี้ไง  กีฬาวิ่งระยะไกลของพวกเรานี้  จึงเป็นกีฬาที่เหมาะกับพวกที่ค่อนข้างมีอายุหน่อย  เพราะพวกนี้จะมีวุฒิภาวะติดอยู่ตามเนื้อตามตัวโดยธรรมชาติแห่งวัย  จนสามารถมีความอึดทนทานต่อความผิดหวัง  แพ้พ่าย  เมื่อเป้าหมายของตนเองไปถึงช้า  ไม่ได้อย่างคาดหวัง  แต่ก็ยังประคับประคองให้ตัวเองก้าวต่อไปได้  สำหรับยุวชน  การวิ่งช่วยให้น้องๆที่ได้ลองมีประสบการณ์มาบ้างทึ่งในความมหัศจรรย์แห่งชีวิตว่าการวิ่งในฐานะที่เป็นกีฬาธรรมดาพื้นๆ  แต่สามารถขุดลึกเอาส่วนที่ดีที่สุด  เข้มแข็งที่สุด  และแกร่งที่สุดของนักวิ่งธรรมดาๆออกมาได้อย่างไรกัน     It’s brings out extraordinary traits in “ordinary runners”.

                การฝึก หรือ ตัวแผนโปรแกรมวิ่ง  มีหลายวิธีจากหลายโค้ชที่แนะนำไว้  คงจะไม่ใช่แผนของผู้ใดดีกว่า  หรือของใครเอื้อให้สำเร็จมากกว่าอีกคน  แต่วิธีการนั้นมีแนวโน้มที่จะออกผลดีกับผู้ใดด้วย     ที่กว่าครึ่งของความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับผู้ฝึกเองด้วยค่อนข้างมาก  เช่นเป็นผู้ที่มีแนวโน้มทางชีวกล  (Bio-Mechanic)  ที่แตกต่างกัน  ความพากเพียรต่างกัน  ใจถึงใจเสาะต่างกัน  ชีวทัศน์ต่างกัน  กระทั่งระดับการเงินก็ต่างกัน  ที่มันเป็นไปได้ทั้งสองมิติ  คือ  การเงินที่ไม่ค่อยพอเพียงขาดแคลน  ก็สามารถเป็นปัจจัยที่ทั้งส่งเสริมและปัจจัยบั่นทอนการฝึกวิ่งด้วย

                แต่ไม่ว่านักวิ่งจะรวยหรือจน  จะมีความสำเร็จไม่ได้  หากปราศจากความเชื่อมั่นในตนเองว่า  “สามารถทำได้”

                เรื่องอุปสรรคเป็นเรื่องที่ต้องมีแน่ๆ  แต่ประเด็นก็คือ  แต่ละคนจะมีวิธีการจัดการกับมันอย่างไร  การลงมือทำทั้งๆที่ขาดแคลน  การที่ต้องแสวงหาให้ได้ทั้งๆที่ไม่มี  ที่ไม่จำเป็นต้องไปเหมือนกัน  ขอแต่เพียง  ผ่านมันไปให้ได้ก็พอแล้ว

                ใครที่ผ่านไปได้อย่างเหนื่อยน้อยก็โชคดี  แต่ใครที่เหนื่อยมากก็ไม่โชคร้าย  มองให้ดีซิ  คิดให้รอบคอบ  ตรองให้หลายชั้น  สติมีไว้ตั้งมั่นเจียรนัยหาทางแก้ไขปัญหา  ลุกขึ้นสู้ใหม่  และต้องแรงใจที่มากกว่าเดิมให้ได้

               สำคัญนักก็ตรงที่  อย่าไปเปรียบกับใคร  ด้วยว่าตรงนั้นมันจะไปเพิ่มแรงเสียดทานโดยไม่จำเป็น  แม้ว่าบางครั้งผู้เขียนเห็นการเปรียบเทียบกับผู้อื่นแล้วกลับมีผลเพิ่มแรงพุ่งทะยาน ทะลุทะลวงได้ดีขึ้น  ถ้าเป็นอย่างนั้นการกลับเป็นดี  ซึ่งต้องดูตนเองด้วยว่า  อย่างใดที่จะได้ผลกับตัวตนกว่ากัน

                พอไม่เปรียบกับใคร  โดยทั่วๆไป  เราก็จะไปอย่างช้าๆ  แต่มันก็จะมีผลแลกเปลี่ยนมากับความทนทาน  เข้าฝักที่แน่นอนกว่า  ที่ดีกันไปคนละแบบ

                ผู้เขียนไม่ค่อยจะให้ความสนใจกับพวกช้างเผือกสักเท่าไร  แต่สนใจว่า  เขาผู้นั้นก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไปจากพื้นเดิมได้มากน้อยแค่ไหน  ที่เราน่าจะเรียกได้ว่า  “ความสำเร็จ”  ทั้งในชีวิตวิ่งและชีวิตจริง  และด้วยการให้ความหมายกับความสำเร็จอย่างนี้เองที่ทำให้  นักวิ่งทุกระดับความสามารถถึงความสำเร็จได้กันทุกคน

  

มกราคม  2549