ความทรงจำอันเจ็บปวด

 

  #198

         

                แม้เวลาจะล่วงเลยมา15ปีเศษแล้วก็ตาม เมื่อใดที่นึกถึงหรือมีการพูดคุยกันถึงงานวิ่งในวันนั้น ผมก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี

                ก่อนอื่น ผมขอปูพื้นเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวนิดนึงก่อน ระยะเวลาที่กล่าวถีงข้างต้นนั้น ผมเพิ่งอายุ 47ปีเศษ   

ปฏิบัติหน้าที่อยู่กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ เกี่ยวกับการกีฬาตลอดมา พวกเราในแผนกรวม7-8คนทั้งขายและหญิง จับกลุ่มกันเป็น”นักวิ่ง”มาตั้งแต่งานวิ่งสะพานแขวนพระราม9 วันที่22 พฤศจิกายน2530 และมัก เดินทางไปร่วมกิจกรรมวิ่งตามสถานที่ต่างๆเป็นประจำ ช่วงเวลานั้นงานวิ่งยังไม่ดกและชุกชุมเช่นในปัจจุบันนี้ “นักวิ่ง”จริงๆ ที่  พร้อมใจกันไปร่วมสนุกทุกงาน ยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่จึงคุ้นหน้า คุ้นชื่อและมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ช่วงเวลานั้น บริษัทฯเป็นผู้สนับสนุนหลักแชมป์มวยโลก”สด จิตรลดา”อยู่ ผู้จัดการฝ่ายฯของเราบังเอิญได้คุ้นเคยกับ”มิสเตอร์ ชาลส์ แอดกินสัน” ซึ่งเป็นโค้ชของสด นายชาลส์คนนี้เท่าที่ทราบตะแกเป็นโคชมวยทั้งๆที่อาชีพที่แท้จริงคือช่างประปา  ช่วงไหนที่สดไม่มีโปรแกรมซ้อมเข้ม แกก็จะเดินทางกลับลอนดอนชะทีหนึ่ง จะเพื่อประกอบอาชีพส่วนตัวหรือด้วยเหตุไรก็ตามแต่ ขากลับมาเมืองไทย แกก็จะหิ้วอุปกรณ์กีฬานานาชนิดติดมือกลับมาฝากพรรคพวกเพื่อนฝูงทางนี้เป็นประจำตามอัธยาศัย เรื่องมันก็เกิดขึ้นอีตรงนี้แหละครับ 

กลุ่มของเราได้ยินกิตติศัพท์ด้านนี้ของแกเข้า ก็หูผึ่งตาโตทันที สมัยนั้น รองเท้าวิ่งชั้นดีที่มีจำหน่ายในบ้านเรา นอกจากจะแพงมากแล้วยังไม่มีให้เลือกมากแบบมากยี่ห้อนัก แอร์ชนิดต่างๆของไนกี้ก็มีแต่พวกที่หิ้วหรือฝากพรรคพวกหิ้วเข้ามา นิวบาลานซ์ไม่เห็นมีวางขายที่ไหน เอสิค เจล ก็เคยเห็นแต่ในแคตตาลอค สรุปเอาว่าพวกเราขอให้มิสเตอร์คนนี้ หิ้วรองเท้าวิ่งชั้นดีกลับมาบ้างได้ไหม หลังจากจดขนาดวาดรูปเท้าบอกความต้องการไปเสร็จสรรพ ก็นั่งฝันและตั้งตารอรวดเร็วดังใจหมาย แต่….รุ่นและแบบที่เลือกไว้ ไม่มีขนาดเท้าเล็กๆของคนบ้านเรา แกก็เลยเลือกรองเท้าวิ่งแข่ง”ชั้นดี”ยี่ห้อดัง …มีตัวอักษร พีบี800 ต่อท้าย สวยหรูและเริดจนต้องสูดปาก พื้นบางเฉียบ น้ำหนักเบาหวิว สีพื้นขาว ตัดขอบแดงและน้ำเงินสุดจะเท่ เจ้าตัวคุยว่า มีนักวิ่งขั้นนำใส่ลงแข่งลอนดอนมาราธอนเยอะแยะ เราก็อยากเป็นนักวิ่งชั้นนำกับเขาบ้างนี่นา รีบคว้าไว้โดยไม่ต้องออกแรงแย่งกับใคร เพราะน้องๆในกลุ่มใช้รองเท้าขนาดเล็กกว่าทั้งนั้น

แล้วก็มาถึงวันนั้น วันแห่งความเจ็บปวดไม่รู้ลืม งานวิ่ง”เกาะเสม็ดฮาล์ฟมาราธอน” 22พฤษภาคม 2531 หมายมั่นปั้นมือว่า ยังไงๆจะต้องทำเวลาวิ่งได้ดีกว่างานวิ่งทุกครั้ง เพราะเรามีรองเท้าวิเศษคู่เบาหวิวนิ่แหละ เช้าวันนั้นอากาศร้อนมาก เวลาสตาร์ทเลย06.30.ไปเล็กน้อย จุดเริ่มต้นอยู่ที่ถนนสวนสนหน้าโรงแรมอะไรจำชื่อไม่ได้แล้ว ก่อนถึงตลาดบ้านเพประมาณ1.5กม. วิ่งตรงไปอ้อมตลาดเพ กลับมาเข้าถนนสวนสนเลียบทะเลใหม่ ประมาณกม.ที่2 ผ่านไป10นาทีพบท่านเสธ.พิศ (พท.พิศ ยศขณะนั้น) ท่านยังทักว่า “วันนี้อากาศร้อนมากนะ คุณออกเร็วไปหน่อยแล้ว” เรากำลังชื่นใจกับรองเท้าคู่เก่ง ด้วยมันวิ่งแสนจะเบาเท้า ไม่ฟังคำทักท้วงของท่าน ถีบเอาๆไปข้างหน้าโลด ผ่านโค้งโรงงานน้ำปลาที่อยู่สุดปลายถนนเลียบหาด เลี้ยวซ้ายขึ้นไปจนประมาณกม.8 เอ๊ะ! หัวเข่าซ้ายมีอาการผิดปกติ มันจะแปล๊บๆทุกครั้งที่เท้าแตะพื้น ไปได้อีก 4-5ก้าว เอ๊า! เข่าขวาก็ขอร่วมวงออกอาการกับเขาด้วย เริ่มจากแปล๊บเล็กๆจนกระทั่งแปล๊บใหญ่ๆ จากเจ็บ จนกระทั่งพูดเต็มคำได้ว่าปวด วิ่งมาก็นักต่อนักแล้ว ทั้งซ้อมทั้งแข่ง ไม่เคยเจอะเจออาการเช่นนี้สักที กัดฟันมาจนถึงจุดกลับตัวที่กม.10 รับน้ำแล้วเดินคิดว่าจะเอาไงดี เพราะตอนนี้มันปวดจนแม้กระทั่งช่วงที่เท้าไม่แตะพื้นก็ปวด กระย่องกระแย่งไปพร้อมกับจินตนาการว่า ที่เขาพูดกันถึง”คุดทะราดเหยียบกรวด”มันก็คงลักษณะเดียวกับเราที่เดินอยู่ตอนนี้กระมัง ครั้นจะเดินไปเรื่อยๆ ก็คงจะปวดไปเรื่อยๆและต้องใช้เวลานานกว่าจะวิ่งไปแน่ ถ้าจะกัดฟันวิ่งอาการมันจะยิ่งแย่กว่านี้มั้ย รับตรงๆว่าตอนนั้น”แหยง”เต็มที่แล้ว อธิษฐานขอให้พ่อแก้วแม่แก้วช่วยก็หมดหวัง เพราะท่านไม่ใช่”นักวิ่ง” สุดท้ายตัดสินใจเหยาะๆไปตามลูกรังไหล่ทาง เพราะดูว่าน่าจะนุ่มเท้ากว่าพื้นถนน มาจนถึงโค้งโรงน้ำปลาใหม่ ขาไปตอนผ่านยังนึกว่า กลิ่นไม่น่าพิสมัยเท่าไร แต่มาขากลับนี่ ถึงตรงนี้ได้ ดีใจและคิดว่ากลิ่นมันช่างหอมหวนยิ่งนัก กลับมาเข้าถนนสวนสนเลียบหาดใหม่ โชคดีที่ได้อาศัยใบสนแห้งๆตามไหล่ทางช่วยรองรับเท้าให้นุ่มขึ้นอีกนิด งานนี้ กว่าจะเห็นเส้นชัยและกัดฟันแทบจะบิ่นหน้าตาเหยเกเหยาะๆเข้าไปได้ ก็ใช้เวลาเฉียด2ชั่วโมง เข้ามาเป็นอันดับ38ของรุ่นอายุ พอผ่านเส้นชัยได้ก็หยุดกึก มันก้าวต่อไม่ได้อีกแล้ว ลูกชายสองคนมาหิ้วปีกพาไปหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่  อุทาหรณ์ของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า อย่าเห็นแต่ความสวยเริด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และรู้ไม่จริง สักแต่ฟังเขาว่าดีๆก็เห็นดีตาม ไม่พินิจพิจารณาให้ถี่ถ้วน                                                                                                                                                                                        

           อันอุปกรณ์การวิ่งที่สำคัญที่สุด”รองเท้า” ควรต้องเลือกและดูให้เหมาะสมกับสภาพของตนเองและประเภทของงานวิ่ง เจ้า…พีบี800บางเฉียบคู่สวยนี้ ความเป็นจริง นักวิ่งชั้นนำที่ว่า เขาใช้ลงวิ่งแข่งในระยะสั้น แล้วมันจะมีส่วนรองรับแรงกระแทกอะไรไหวกับคนอายุเกือบ50 น้ำหนัก70เศษๆ แล้วลงวิ่งในระยะฮาล์ฟมาราธอน ถัาเป็นหนุ่มฉกรรจ์ที่คุ้นเคยกับรองเท้าวิ่งธรรมดาๆหรือพวกฝืกวิ่งมาตั้งแต่เล็กๆก็ไปอย่าง อพิโธ่พิถัง! สะบ้าไม่หลุดและเดินอย่างปกติมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็บุญหนักหนาแล้ว คุณหมอท่านว่า เอ็นเข่าอักเสบจากการใช้งานสุมสี่สุมห้าหนักเกินเหตุ แล้วเจ้าเอ็นอะไหล่พวกนี้ก็ไม่มีให้เลือกหาแถวคลองถมซะด้วยซี                                                                                                                                                    

            สรุปท่านให้ใช้เจลแพคเย็นๆประคบวันละ4-5ครั้ง เอาผ้ายืดรัดไว้ ให้ยาเฟลดีนลดการอักเสบทั้งกินและทา แถมให้หยุดพักการวิ่งโดยเด็ดขาดชั่วคราว เฮอะ! ข้อนี้ถึงไม่สั่ง จ้างให้ผมก็ไม่วิ่งหรอกครับ                                                                                             

            ยังครับยัง ความเจ็บปวดที่จะต้องจดจำยังไม่หมด จากบ้านเพ ครอบครัวผมและกลุ่มนักวิ่งของบริษัทฯ เดินทางกลับมาพักที่พัทยาในโรงแรมชั้นดีแถวๆวงเวียนพัทยาเหนือซึ่งเราจองไว้ล่วงหน้าแล้วและพักอยู่ก่อนที่จะเดินทางไปลงแข่งที่บ้านเพในเช้าวันนั้น ที่ว่าโรงแรมชั้นดี เพราะเขามีสระว่ายน้ำทันสมัย แบบว่ามีกระแสน้ำแรงๆพุ่งจากผนังสระ2-3จุด(คล้ายๆจากุซซี่) จุดประสงค์คงเพื่อจะให้เด็กๆได้เล่นสนุกกัน ความที่เคยได้ยิน เคยอ่านพบว่า เวลามีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ สามารถบรรเทาได้โดยอาศัยน้ำเป็นตัวช่วยนวด มีการแนะนำให้วิ่งในทะเลหรือในสระน้ำ เรื่องแบบนี้ก็ต้องมีการลองกันหน่อยละ พอเปลี่ยนชุดได้ก็ค่อยๆเตาะแตะมาหย่อนตัวลงสระทันที ไปยืนตรงจุดที่มีน้ำพุ่งออกมาแรงๆ ยืนท้าวสะเอวอย่างที่ตัวเองคิดว่าสง่าผ่าเผยเต็มที่ กะให้น้ำพุ่งมาตรงกับเข่าทั้งสองข้าง ได้ผลครับ โอย..!..ลูกอยู่หนาย..ย ช่วยกันหิ้วพ่อขึ้นที แรงน้ำที่พุ่งมากระแทกโดนเข่านั้น ทำเอาน้ำตาแทบร่วง มันปวดขนาด15ปีกว่าแล้ว ผมก็ยังจดจำความเจ็บปวดนั้นได้เป็นอย่างดี

          น้องๆหลานๆรุ่นหลังจะหัวเราะเยาะกันก็ได้ไม่ว่า แต่โปรดพึงสังวรณ์และอย่าเสี่ยงแบบที่ผมเล่าให้ฟังเลยนะครับ          

ในงานเดียวกันนี้ ยังมีเกร็ดสั้นๆพอจะเล่าสู่กันฟังเป็นอุทาหรณ์ได้อีกเรื่องหนึ่ง งานวันนั้นมีนักวิ่งคุ้นๆกันอยู่หลายท่าน ที่พอนึกออกก็มี คุณสมัยจากการบินไทย เสธ.พิศ คุณพินิจ(อดีตประธานชมรมวิ่งดอกแก้ว ท่านถึงแก่กรรมไปแล้ว) คุณธรรมรัตน์จากบรรษัทเงินทุนฯ อ.พล ฯลฯ และพระเอกของเรื่อง คือคุณวิวัฒน์จากบริษัทถ่ายทำภาพยนต์แห่งหนึ่ง                                                                                                                                                                                                                         

          ดังได้เรียนให้ทราบแล้วว่า เช้าวันนั้นอากาศร้อนมาก เรื่องนี้คุณวิวัฒน์เล่าให้ฟังเองว่า ความที่ต้องตรากตรำงานในอาชีพมาหนักประมาณว่าพักผ่อนไม่พอ แถมเดินทางมาทั้งคืนจากภาคเหนือ เพื่อที่จะมาวิ่งในเช้าวันนั้นด้วยใจรัก วิ่งมาจนจะถึงจุดกลับตัวอยู่แล้ว หน้าชักจะมืดทำท่าจะหมดเอาดื้อๆ ไม่วิ่งไม่เวิ่งมันละ ถอดเสื้อมัดเอวเรียบร้อยกะจะเกาะมอเตอร์ไซด์กลับจุดสตาร์ท ขณะเดินหามอเตอร์ไซด์อยู่ ก็เห็นอ.พล กลับตัววิ่งย้อนกลับมาเป็นคนแรกในกลุ่มอายุและมีนักวิ่งในกลุ่อายุเดียวกันซึ่งผมจำชื่อไม่ได้เกาะหลังมาอีกคน พอคุณวิวัฒน์รู้ตัวว่าแกยังอยู่ในอันดับที่3 ก็มีกำลังใจขึ้นมาอักโข รีบสวมใส่เสื้อใหม่ รับน้ำที่จุดกลับตัว สตาร์ทเครื่องใช้ก๊อก2 ออกวิ่งไล่นักวิ่ง2ท่านที่อยู่ข้างหน้ามาทันที สุดท้ายมาแซงเก็บได้1คนก่อนจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่2หลังอ.พล                                                                                                                             

            เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า ท่านร้อน ท่านเหนื่อย คนอื่นๆก็ร้อนและเหนื่อยเหมือนๆท่านนั่นแหละ อยากถอดเสื้อถอดไป แต่อย่าถอดใจก็แล้วกัน ข้อสำคัญก่อนเข้าเส้นชัยโปรดสวมเสื้อให้เรียบร้อย เพื่อกรรมการจะได้เห็นเบอร์วิ่งของท่านได้ชัดเจน                                                                                                                                                                                                               

             ขอฝากความระลึกถึงมายังนีกวิ่งทุกท่านที่ได้เอ่ยนามพาดพิงถึงมาเป็นอย่างสูง ผมคิดถึงทุกท่านอยู่เสมอ สวัสดีครับ