<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_rama8_bridge.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> เดิน - วิ่ง พระราม ๘ ร.ศ. ๒๒๐ มินิมาราธอน

 ผู้เข้าชมตั้งแต่ 13/05/45 : <% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

ชมภาพบรรยากาศ

เดิน - วิ่ง พระราม ๘ ร.ศ.๒๒๐ มินิมาราธอน

๖ พฤษภาคม ๒๕๔๕

ณ สะพานพระราม ๘  กรุงเทพมหานคร

โดย....นายยิ้ม
 

เยี่ยม!! และยิ่งใหญ่จริงๆ ในรอบ ๑๐ ปี นับตั้งแต่งานเปิดสะพานแขวน พระราม ๙ เป็นต้นมา ผู้คนหลายหมื่นคน (อาจจะถึงแสน เพราะกะไม่ถูกจริงๆ) มารวมตัวกันบนสะพานตั้งแต่เช้าตรู่ เฉพาะนักวิ่ง ก็คงเกิน หมื่นคนแล้ว ถนนกว้างซัก ๘  เมตร นักวิ่งยื่นเรียงอัดกันยาวซัก ๒๐๐ - ๓๐๐  เมตร เห็นจะได้ ส่วนผู้มาร่วมกิจกรรมอย่างอื่น ทั้งเดิน อีกหลายหมื่นคน ทั้งแข่งเต้นแอโรบิค อีก ๖๕ ชมรม....

นายยิ้มออกจากบ้าน ราวตี ๔.๔๐ พอขับรถไปลงสะพานพระปิ่นเกล้า เข้าแยกอรุณอัมรินทร์ รถก็เริ่มติด ตี ๕.๒๐ น. แล้ว    ๑๐ นาที รถขยับได้นิดเดียว ทำไงดีหล่ะ จุด Start อยู่ตรงไหน ไกลหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยตัดสินใจเลี้ยวซ้ายไปทาง รพ.ศิริราช เจอซอยข้างๆ แยกอรุณฯ ก็เลี้ยวตามรถคันข้างหน้าเข้าไป ซึ่งก็เป็นนักวิ่งเหมือนกัน จอดรถเสร็จรีบวิ่งตามคนอื่นๆ ไป เพราะยังไม่เบอร์วิ่งเลย มีแต่ใบเสร็จรับเงินค่าสมัคร ผู้คนเริ่มแน่นตั้งแต่เดินขึ้นสะพาน ตี ๕.๔๐ แล้ว จุด Start ยังอยู่ไกลร่วม กิโล ครั้งนี้เป็นการ Warm ที่เหนื่อยมาก วิ่งก็ลำบาก เพราะคนเยอะมาก ที่จุด Start คนก็แน่นเข้าไปอีก จุดรับสมัครต้องเดินลงบันไดจากตัวสะพานลงไปข้างที่พื้นดินใต้สะพาน ผมคิดว่าคนก็คงแน่นอีกตามเคย เลยตัดใจวิ่งโดยไม่ต้องมีเบอร์ พอมีเวลาก่อนปล่อยตัว เลยกดชัตเตอร์เก็บรูปฝูงชนมาฝากเพื่อนๆ ระหว่างนั้นก็มีการเต้นแอโรบิค จากชมรมแอโรบิคต่างๆ ไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไหร่ เพราะที่ยื่นสูงๆ คนก็ยืนเต็มไปหมดแล้ว

๖ โมงตรง คุณสมัคร สุนทรเวศ ผู้ว่าฯ กทม.ฝ่าฝูงชนขึ้นมาเป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักวิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่ท่านผู้ว่าสมัครกล่าวเปิดงานสั้นมาก คงซัก นาที ๒ นาที เอง และการให้สัญญาณปล่อยตัวก็เก๋ไก๋ซ่ะไม่มี ใช้ปืนใหญ่โบราณ จุดชนวนด้วยคบไฟ บึ้ม!! เสียงปืนใหญ่ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้นักวิ่งหมื่นกว่าชีวิต ทะยานออกจากจุด Start พร้อมเสียงโห่ร้องยินดี และเสียงปรบมือจากผู้คน สองข้างทาง  ช่างเป็นภาพความประทับใจและความทรงจำไปอีกนานของหลายๆ คน

วิ่งลงจากสะพานพระราม ๘ ถึงแยก จปร.เก่า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอก วิ่งอ้อมพระบรมรูปทรงม้า ผ่านสนามมวยราชดำเนิน เข้าถนนราชดำเนินกลาง ผ่านวัดราชนัดดา(โลหะปราสาท) ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลี้ยวซ้ายวิ่งวนรอบสนามหลวง ผ่านวัดพระแก้ว ผ่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และวิ่งขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา นายยิ้มเลยถือโอกาสถ่ายรูปสะพานพระราม ๘ ซึ่งภาพย้อนแสงอาจจะไม่ชัดนัก ลงจากสะพานพระปิ่นเกล้า วิ่งขึ้นถนนลอยฟ้าบรมราชชนนี วกกลับตัวเข้าถนนที่เชื่อมกับสะพานพระราม ๘ เข้าสู่เส้นชัย ระยะทางประมาณ ๑๐.๓  กม. นายยิ้มใช้เวลาไป ๑ ชั่วโมง กับอีก ๑๗ นาที

เส้นทางวิ่งครั้งนี้จัดว่าดีมาก ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางเดิมๆ แต่ที่พิเศษกว่าทุกครั้งก็คือ ปิดการจราจรได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ทำให้วิ่งกันสบาย ไม่ต้องสูดควันรถ แต่ก็ยอมรับว่าทำความลำบากให้แก่ผู้ใช้รถมาก เพราะครั้งนี้มีนักวิ่งจำนวนมากจริงๆ ทำให้วิ่งต่อเนื่องตลอดเป็นสายไม่ขาดตอน ทำให้จราจรไม่สามารถปล่อยรถออกไปได้ นายยิ้มว่าอย่างน้อยๆ ก็ร่วม ๑ ชั่วโมงครึ่ง!!

เรื่องน้ำดื่มระหว่างทางก็เพียบมีแทบทุกระยะไม่เกิน ๒ กม. ถึงแม้บางจุดจะบริการกันไม่ทัน ต้องช่วยตัวเอง ก็ไม่เป็นไร ต้องเห็นใจเพราะนักวิ่งเยอะ อ้อ!..แต่ละโรงพยาบาล ก็มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่มาเตรียมพร้อมอยู่หลายคัน ยืนแจกสำลีชุบแอมโมเนีย กันตลอดระยะทาง ๑๐ กม.

มีความโกลาหลกันบ้างนิดหน่อยตอนเข้าเส้นชัยเพื่อรับเหรียญ เพราะนักวิ่งเข้ามาทีละกลุ่มใหญ่ แจกเหรียญไม่ทันจึงเกิดการมะรุมมะตุ้มแย่งเหรียญกันไม่เป็นแถวเป็นแนวเพราะให้รับเหรียญเสร็จแล้วต้องเดินย้อนกลับทางเดิมสวนกันไปมา กว่าจะแก้ปัญหาให้รับเหรียญเสร็จและเดินเลยไปด้านหลัง ก็เกิดความวุ่นวายพอประมาณ

นายยิ้มรับเหรียญแล้ว ก็เดินเก็บภาพบรรยากาศทั่วๆ ไป ถ่ายรูปมุมมองต่างๆ ของสะพานพระราม ๘  ถ่ายรูปสะพานพระปิ่นเกล้า สะพานพระราม ๖  และยังมีการแสดงดนตรีศิลปพื้นบ้าน จากสำนักงานสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรเลงเพลงได้..ม่วนอีหลี.. สร้างความคึกคัก ให้แก่ผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง

หิวน้ำแล้วหล่ะ ตั้งแต่เข้าเส้นชัยมายังไม่ได้กินน้ำเลย อยู่ไหนหนอ...อ้อ! ต้องเดินลงบันไดไปใต้สะพาน โอ้โห!! คนเยอะเหมือนกันแหะ คิวบะหมี่ไวไว ยาวจังเลย อา..เจอแล้ว สปอนเซอร์กระป๋องแช่เย็น มีแจกไม่อั้น นายยิ้มคิดว่างานนี้น่าจะหมดหลายพันกระป๋อง ส่วนของกินอื่นๆ งานนี้หนีหมด โจ๊ก ข้าวต้ม ไม่มี (หรือว่าหมดก่อนนายยิ้มจะเจอก็ไม่รู้นะ) งานนี้ถ้าใจไม่ถึงพอรับรองขนมาเท่าไหร่ก็ไม่พอแจก อ้อมี โอวัลติน โกโก้ร้อนจากปอเต็กตึ้ง

สายแล้วหล่ะแดดก็ร้อนแล้วด้วย กลับบ้านดีกว่าเรา ก็เดินกลับไปที่รถอีก กิโล. กว่า กลับถึงบ้าน ราวๆ ๙ โมงครึ่ง ระยะทางไป-กลับ ๗๐ กิโลเมตร

งานนี้ต้องขอชมเชยผู้จัดงานทั้งกรุงเทพมหานคร และ คุณเสือ แห่ง Sportvisions ถึงแม้จะมีเวลาเตรียมตัวน้อยนิด แต่ก็เตรียมสิ่งต่างๆ ได้พร้อมพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเบอร์วิ่ง เสื้อ เหรียญ มีอย่างเพียงพอ น้ำดืมตามจุดต่างๆ เพียบ เส้นทางปิดการจราจรเยี่ยม แต่ก็ย่อมมีสิ่งขาดตกบกพร่องไปบ้างเพราะการบริการกับผู้คนเรือนแสนย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายนัก พอให้อภัยกันได้.

ถึงแม้นายยิ้มจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิ่งประวัติศาสตร์สะพานแขวนพระราม ๙ ในอดีต แต่กับงานวิ่งสะพานพระราม ๘ ในครั้งนี้ ก็นำความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับผู้คนนับแสนที่เข้าร่วมงานเปิดสะพานพระราม ๘ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ได้เหมือนกัน.

ชมภาพบรรยากาศ