ผู้เข้าชมตั้งแต่ 5/05/45 :<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

ชมภาพบรรยากาศ

วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

ณ สะพานพระราม ๕ (วัดนครอินทร์)  จ.นนทบุรี

โดย....นายยิ้ม

งานนี้เป็นงานที่น่าสนใจงานหนึ่งทีเดียว เพราะวิ่งบนสะพานพระราม ๕ ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ แต่ยังไม่เปิดใช้งาน เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในเขตจังหวัดนนท์ และมีตัวเลข ๕ เป็นตัวเลขที่หน้าสนใจ คือ ๑) เป็นงานฉลอง ๔๕๓ ปี ของดีเมืองนนท์ ๒) วิ่งวันที่ ๕ เดือน ๕  ๓) วิ่งบนสะพานพระราม ๕  ๔) เหรียญที่ระลึก(อันใหญ่)สำหรับผู้เข้าเส้นชัย เป็นรูปรัชกาลที่ ๕

ตั้งนาฬิกาปลุก ตี ๔ ทำธุระเข้าห้องน้ำ แต่งตัว ไม่ได้รีบเร่งอะไร ตี ๕ ออกจากบ้าน(ถ.รามอินทรา กม.๗) ตอนเช้าถนนโล่ง จากเส้นรามอินทรา เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พหลโยธิน ตรงวงเวียนหลักสี่ ตรงไปถึง แยก เกษตรตัดใหม่ เลี้ยวขวาเข้าถนนงามวงศ์วาน วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนถึง สี่แยกแคราย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ผ่านหน้า ก.สาธารณสุข ตรงไป เลย สี่แยก ก็จะถึงบริเวณจัดงาน

ผมไปถึงหน้างานประมาณตี ๕.๒๐ นักวิ่งมากันเยอะแล้วที่จอดรถแน่นทั้ง ๒ ข้างทาง พอหาที่จอดได้ก็รีบไปสมัครวิ่งก่อน การจัดการเรื่องรับสมัคร แจกเบอร์ เสี้อ และรับฝากของ ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร  ผมเริ่มมองหารถสุขา อ้อ...เจอแล้วเพียวคันเดียวเท่านั้น นักวิ่งเข้าคิวยาวเชียว โดยเฉพาะ แถวผู้หญิง

นักวิ่งระยะฮาล์ฟ ปล่อยตัวเวลา ตี ๕.๓๐ น. โดยรัฐมนตรี พงษ์เทพ  เทพกาญจนา ตีฆ้องให้สัญญาณ  และปล่อยตัวระยะมินิมาราธอน เวลา ตี ๕.๔๕ น.(แทนที่จะเป็น ๖ โมงเช้า ซึ่งอาจจะเป็นเคล็ด เลข ๕ ก็ได้) ทำให้นักวิ่งหลายท่าน ไม่ทันได้เตรียมตัวเข้าไปในจุด Start  จุดปล่อยตัวอยู่ตรงเชิงสะพานพระราม ๕ วิ่งไปได้ ๑๐๐ - ๒๐๐ เมตร ก็เริ่มขึ้นสะพาน ไฟบนสะพานยังประดับสวยงามอยู่  นักวิ่งมินิ ประมาณ ๒,๐๐๐  กว่าคนเห็นจะได้ เวลาวิ่งขึ้นสะพานจะเห็นเป็นสายยาวดูสวยงามมาก ผมวิ่งไป เก็บภาพความประทับใจ ซึ่งภาพที่ถ่าย คงไม่สามารถเก็บความสวยงามได้เท่ากับสายตาตัวเอง

เส้นทางวิ่งดีมากๆ เป็นผิวลาดยางใหม่ วิ่งแล้วนุ่มเท้า รู้สึกถึงความแตกต่างจากการวิ่งบนถนนคอนกรีต นักวิ่ง วิ่งได้เต็มสะพาน ไม่ต้องกลัวรถรา หรือสูดดมควันพิษแต่อย่างใด สองข้างทางดูโล่ง และร่มรื่น วิ่งลงจากสะพานพระราม ๕ ไปได้หน่อย ก็ขึ้นสะพานข้ามถนนบางกรวย-ไทรน้อย ผมวิ่งไปถ่ายรูปไป เอ..ชักหิวน้ำแล้วซิ นี่ผ่าน กม.ที่ ๓ แล้วยังไม่เห็นจุดให้น้ำเลย  ไม่เป็นไรน่าอีกนิดเดียวก็คงมี  เริ่มได้ยินเสียงนักวิ่งเจริญพรให้ผู้จัดประปราย จุดกลับตัว กม.ที่ ๔ แล้ว ก็ยังไม่มีน้ำ (ที่จุด Start ก่อนปล่อยตัว ก็ไม่มีน้ำให้กิน) นักวิ่งหลายคนเริ่มแซวกันเองเพื่อให้บรรยากาศคึกครื้น  นั้น..นั้นๆๆๆ เจอน้ำแล้ว โชคดีจังเลย รถปิดอัพ ที่เพิ่งจอดอยู่ข้างหน้า เจ้าหน้าที่รีบตั้งโต๊ะยกน้ำลงกันมาใหญ่ นักวิ่ง กรูกันเข้าไป ตักกันไม่ทัน ก็แหมมันเข้ามาตั้ง กม.ที่ ๖ แล้วนี่ครับ สงสารแต่พวกแนวหน้าที่วิ่งเร็ว ไม่มีน้ำให้กินเลย จนเข้าเส้นชัย อ้อ..พวกวิ่งฮาล์ฟด้วย ไม่รู้ว่าหมดแรงกันตั้งแต่ ๑๐ กม.แรกกันหรือเปล่า อ้อ! เริ่มมีน้ำอีกจุดที่ กม.ที่ ๗ แต่คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะแจกกันเป็นขวดน้ำสิงห์เลยไม่แช่เย็น ไปเปิดกินกันเอาเอง !!!

พอได้น้ำแล้วรู้สึกดีขึ้นหน่อย ค่อยมีแรงวิ่งขึ้นสะพานขากลับ โอ้โห!! ผู้คนจากไหนกัน เดินกันเต็มสะพานเลย น่าจะซัก ๓,๐๐๐ กว่าคน อ้อ..จาก อบต.และ อสม.ต่างๆ ของจังหวัดนนทบุรี มาร่วมเดินรณรงค์ต่างเช่น ช่วยกันกำจัดยุงลาย

ผมวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา ๔๙.๒๒ นาที สำหรับระยะทางที่พูดๆกันว่าประมาณ ๘ กม.  ที่เส้นชัย นักวิ่งแต่ละคนกินน้ำกันอย่างสะใจ พร้อมกับเสียงขอโทษขอโพย ของผู้จัด ซึ่งงานนี้รับไปเต็มๆ สองรูหู (เห็นใจแต่ บูลรันเนอร์ ถึงแม้จะไม่ได้รับผิดชอบเรื่องน้ำดื่ม แต่ก็ยากที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้นักวิ่งเข้าใจ และคงจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้) สำหรับอาหารการกิน ก็มี น้ำเต้าหู้ โจ๊ก ข้าวต้ม ปาท่องโก๋ กาแฟ ฯ อาหารตั้งโต๊ะไกลจากเส้นชัยไปหน่อย ทำให้นักวิ่งหลายคนไม่รู้ว่ามีอะไรกินบ้าง คิวต่างๆ ก็เลยไม่ยาว ผมเลยเก็บ โจ๊ก ๑ ข้าวต้ม ๒ !!!

สรุปแล้วงานนี้ประทับเส้นทางวิ่งมากที่สุด ทำให้มีความคิดแว็บเข้ามาว่า ถนนทุกเส้นที่ตัดใหม่นั้น ก่อนเปิดให้รถวิ่ง น่าจะให้นักวิ่งได้วิ่งกันก่อน เพราะโอกาสวิ่งบนถนนโดยไม่มีรถมาเกะกะนั้นน้อยมาก (แหม..เสียดาย เส้นตัดใหม่จากแยกเกษตร ถึง นวมินทร์(สุขาภิบาล ๑) ระยะทางยาวจัดวิ่ง ๑๐ กม.ได้สบาย ไม่น่าปล่อยให้รถวิ่งก่อนเล้ย..) 

ไม่รู้ว่าพวกวิ่งฮาล์ฟ จะเป็นตายร้ายดีกันยังไงบ้างน้อ!!

ชมภาพบรรยากาศ