<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_pupeng_87years.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> ปู่เป็ง เพิงสา

 

ปู่เป็ง เพิงสา

ปัจจุบัน (พ.ศ.2550) อายุ94 ปี

 

 

นักวิ่งมาราธอนวัย 87 ปี

 

 

....เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ปู่เป็งแอบย่องออกจากบ้านตอนเช้ามืด เพื่อซุ่มซ้อมวิ่งให้ร่างกายพร้อม...ส่วนจิตใจนั้นไม่ต้องห่วง...เต็มร้อยอยู่แล้วฟิตดี  ไม่มีพลาด "ปู่เป็ง" จะเริ่มซ้อมตั้งแต่เวลา 4.00น.โดยวิ่งรอบสนามฟุตบอลไปเรื่อยๆ พอฟ้าสว่างจึงวิ่งออกถนนใหญ่  นับหลักกิโลฯไปจนได้ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็วิ่งกลับจะถึงบ้านประมาณ 10.00 น.

    "ปู่เป็ง" เล่าว่า เริ่มซ้อมวิ่งช่วงแรก ๆ ...วิ่งรอบสนามฟุตบอลจนงง..จำไม่ได้ว่าวิ่งไปกี่รอบ...ต้องหาเครื่องช่วยจำ...วันรุ่งขึ้น...จึงไปแลกเหรียญบาท  ใส่กระเป๋าไว้ 100 เหรียญ

วิ่งครบ 1 รอบ...ก็ล้วงเหรียญจากกระเป๋าขวา มาใส่กระเป๋าซ้าย แล้วก็วิ่งไปจนหมดเหรียญ ประมาณ 40 กิโลเมตรผลปรากฎว่า กระเป๋ากางเกงขาด  เหรียญบาทตกหาย

...และตอนวิ่งยังมีเสียงเหรียญกระทบกัน..กรุ๊ง...กริ๊ง.. น่ารำคาญ..จึงเปลี่ยนจากเหรียญบาทมาใช้เม็ดมะขามแทน

    นอกจากการซ้อมอย่างสม่ำเสมอแล้ว..ปู่เป็งยังรักษาสุขภาพตนเองอย่างดีเยี่ยมด้วย

      "ตั้งแต่หนุ่มๆ มาแล้ว  ปู่ไม่เคยกินเหล้า  หรือสูบบุหรี่เลย เพราะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารตรงเวลา  จะมีลูกสาวคนเล็กคอยชงโอวัลตินหรือนมเสริมแคลเซี่ยมให้กินทุกวัน " ที่สำคัญ ปู่เป็งไม่เคยตั้งอยู่ในความประมาท เพราะจะเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกเดือน ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช

แรงบันดาลใจ

"ปู่ไม่มีโอกาสไม่เหรียญหรอก  เพราะปู่ไม่ได้เป็นนักกีฬาอายุก็มากแล้ว " คำพูดในเชิงดูถูกของหลานชายตัวเล็ก ทำให้จิตใจไม่เคยยอมแพ้ใครของปู่เป๋งฮึดสู้ขึ้นมาทันที

     เนื่องจากหลานชายเป็นนักกีฬาประจำจังหวัดราชบุรี ได้นำเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬามาอวด  ปู่เป็งสนใจมาก " เพราะสมัยปู่เป็นเด็กไม่มีแบบนี้ " ปู่เป็ง เล่าถึงแรงบันดาลใจครั้งแรกก่อนกระโดดลงสนามวิ่ง

     และที่มีส่วนกระตุ้นให้ปู่เป๋งเลือกการวิ่งเป็นรางวัลในปั้นปลายชีวิตนั่นก็คือ...ภาพนักวิ่งจำนวนมากที่วิ่งผ่านหน้าบ้านเป็นประจำ  เพราะเป็นเส้นทางที่สถาบันราชภัฎหมู่บ้านจอมบึงใช้เป็นทางผ่านในการจัดแข่งขันวิ่งมาราธอน จึงนึกสนุกด้วย

     ปี 2537 ปู่เป็งจึงเดินเข้าไปเขียนใบสมัครลงแข่งขัน "จอมบึงมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร " ในรุ่นอายุ 60 ปี ขึ้นไป  และวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยไม่ได้รับเหรียญรางวัลอะไรเลย...

     แต่ที่แน่ๆ วันรุ่งขึ้น...ปู่เป็งไม่สบาย ปวดเมื่อยร่างกายไปหมด เหมือนกระดูกจะหลุดเป็นเสี่ยง ๆ ลูกๆ ต้องป้อนข้าวต้มอยู่หลายวัน อาการป่วยทำให้ปู่เป็งรู้ว่า  ร่างกายตนเองไม่พร้อม เพราะไม่เคยเล่นกีฬามาก่อน 

    ดังนั้นเมื่อหายป่วย..ปู่เป็ง จึงออกวิ่งซ้อมรอบสนามฟุตบอลสถาบันราชภัฎฯทุกเช้า

  ไม่เคยยอมแพ้เข้าเส้นชัยทุกครั้ง

  " ผมลงสนามพร้อม " ปู่เป็ง " จำได้ว่า ตอนนั้นลงครึ่งมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร  วิ่งไป 10 กิโลเมตร เห็นปู่เป็งวิ่งอยู่ข้างหน้า ผมก็เร่งฝีเท้าตีเสมอ ...และวิ่งคอยอยู่ระยะหนึ่ง จึงคิดจะแซง ย่ามใจว่า ปู่อายุมากแล้ว จึงหันมาบอกปู่เป็งว่า..ไปก่อนนะปู่...แล้วผมก็วิ่งแซงขึ้นไป  พอวิ่งไปอีกไม่ถึง 5 กิโลเมตร ได้ยินเสียงคนวิ่งตามหลังมา หันไปดูปรากฏว่าเป็นปู่เป็ง...แล้วปู่ก็เร่งฝีเท้าแซงผมทันที และบอกว่า..ไปก่อนนะอาจารย์  ผมก็แซงปู่ไม่ได้อีกเลย..ปู่อึดมาก ยิ่งวิ่งระยะไกลไม่มีใครสู้ได้ " เป็นคำบอกเล่าของอาจารย์ ณรงค์  เทียมเมฆ ผู้ก่อตั้งชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพของสถาบันราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง

     ความมุ่งมั่นของปู่เป็ง ...เป็นสิ่งที่เยาวชนควรนำไปเป็นแบบอย่าง คือตั้งใจทำอะไรแล้ว ต้องทำให้สำเร็จ ทุกครั้งที่ลงสนาม จะต้องเข้าเส้นชัยให้ได้  ไม่ว่าจะทำเวลาได้แค่ไหนก็ตาม ไม่เคยออกนอกเส้นทาง เพราะความเหนื่อยล้า ไม่เคยใช้ทางลัดเพื่อทำเวลา  ไม่เคยออกนอกการแข่งขันกลางคัน

    "เป็นการให้เกียรติสนาม " เป็นเหตุผลสั้น ๆ จากคุณปู่ยอดนักสู้

     ปู่เป็งมีเทคนิคส่วนตัวในการวิ่งที่ไม่มีใครสอน นั่นก็คือ ท่าวิ่งที่ยกเท้าไม่สูง เลียดไปกับพื้น พัฒนามาจากการเดิน ประกอบกับรูปร่างเล็กๆ บางๆ  น้ำหนักเพียง 48 กิโลกรัม กับส่วนสูง 155 เซ็นติเมตร ทำให้ร่างกายไม่ต้องรับน้ำหนักมาก จะช่วยลดอุบัติเหตุ

     ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา รศ.เจริญ  กระบวนรัตน์  บอกว่าการวิ่งมาราธอนของ "ปู่เป็ง " จะไม่เป็นอันตราย หากร่างกายคุ้นเคยกับการออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ  และสถิติ 4 ชั่วโมงเศษๆ จากการวิ่ง 42.195 กิโลเมตร ก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคนอายุมาก

     คนอายุ 70 ปีขึ้นไป หากได้ออกกำลังกายเป็นประจำแล้วจะทำให้ ปอด หัวใจ  หลอดเลือด  กระดูก กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว และแข็งแรงหนุ่มๆ บางคนสู้ไม่ได้  แต่หากหยุดไปนาน ๆ แล้ว กลับมาวิ่งอีก ถือว่าเสี่ยง รศ.เจริญให้ความรู้

     รศ.เจริญ บอกด้วยว่า  ปู่เป็งเป็นตัวอย่างที่ดของการออกกำลังกาย วัยเกือบ 90 ปีแล้ว ยังสามารถฟิตซ้อมร่างกายจนแข็งแรงลงสนามได้ ถือว่าเป็นคนพิเศษกว่าใคร ๆ แต่ไม่อยากให้ปู่เป็งมุ่งมั่นแข่งขันเพื่อเอาชนะจนเกินสภาพร่างกายซึ่งอาจพลาดพลั้งได้  ดังนั้นต้องคำนึงว่าร่างกายวัยนี้จะไม่แข็งแรงเหมือนหนุ่มสาว  "การวิ่งออกกำลังกาย มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ ทำให้อายุยืนร่างกายแข็งแรง รักษาโรคบางชนิดได้โดยเริ่มวิ่งจากทีละน้อยๆ อย่าหักโหม  วิ่งอย่างช้าๆ ไปเรื่อยๆ มีจิตใจที่เพลิดเพลินอารมณ์ดี  ที่สำคัญที่สุด คือต้องคอยสังเกตุปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเสมอทั้งก่อนวิ่งขณะวิ่งและหลังการวิ่ง ผู้เชี่ยวชาญบอกทิ้งท้าย

     อย่างปู่เป็ง หนุ่มๆ หลายคนยกมือยอมแพ้ แม้ว่าเรื่องกุ๊กกิ๊กกับคู่ทุกข์คู่ยากจะห่างหายไป...แต่วันนี้คุณปู่ ยังเคียงคู่ภรรยา นั่งดูกีฬาโปรดทางทีวี และจูงมือคุณย่าไหว้พระสวดมนต์ก่อนเข้านอนเป็นประจำทุกคืน

 

     อากาศยามเช้าตรู่ของ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี บริสุทธิ์เย็นสบายแบบที่ชาวกรุงไม่มีโอกาสสัมผัส..."ปู่เป็ง  เพิงสา" กำลังวิ่งออกกำลังกายรอบสนามฟุตบอล รอบแล้วรอบเล่า เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเป็นภาพที่หนุ่มละแวกนั้นมองด้วยความอิจฉาในความแข็งแรง

     ตามบัตรประจำตัวผู้สูงอายุระบุว่า "ปู่เป็ง" เกิด พ.ศ.2458 บวกลบแล้วตามปีนี้ คุณปู่กำลังก้าวเข้าสู่วัย 87 ปี

     "ตอนที่คุณพ่อลงแข่ง "มาราธอน" ครั้งแรก เมื่อปี 2542 พวกเราใจหายใจคว่ำ เห็นหน้าซีดอาการไม่ค่อยดี บอกให้หยุดวิ่งก็ไม่หยุด มีรถพยาบาลตามท่านจนถึงเส้นชัย " กันยารัตน์ ลูกสาวคนสุดท้อง กล่าวด้วยความห่วงใย

     ขณะที่คุณปู่ของเรา บอกว่า "วันนั้นที่วิ่งไม่ออก ก็เพราะความหวังดีของลูก เห็นพ่อลงแข่งครั้งแรก ซื้อรองเท้าใหม่ยี่ห้อดังให้เป็นของขวัญ ก็เลยฉลองศรัทธาลูก แต่รองเท้าทำพิษ..

     ปีต่อมาก็ลงแข่งมาราธอนอีก...คราวนี้สบายมาก 42 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 4:41:51 ชั่วโมง" ปู่เป็งกล่าวพร้อมหันมองหน้าลูกสาว

     "วิ่งมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ไม่ใช่ของเล่นใครที่คิดจะลงวิ่ง ต้องเตรียมตัวให้ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ผมอายุ 40 ปี ยังไม่กล้าลงมาราธอน " สนอง  ยอดครู สมาชิกชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพ สถาบันราชภัฏจอมบึง พูดถึงปู่เป็งด้วยความชื่นชม

 

"จอมบึงมาราธอน 2002 "

ปู่เป็ง เพิงสา ลงวิ่งมาราธอนระยะ 42.195 กม. ทำสถิติ 04:51:24 ชั่วโมง เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 7 ในรุ่น 65 ปีขึ้นไปชาย

 

 

สองมือไม่เคยหยุดนิ่ง สองเท้ายังเคลื่อนไหว ตราบใดที่ยังมีแรง

 

     ปู่เป็ง ไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวย  สมัยหนุ่มๆ ใช้ความขยันขันแข็ง ทำไร่-ทำนา ส่งเสียลูกๆ 5 คนให้เรียนจบปริญญาตรี รับราชการครูทุกคน หลังจากทำหน้าที่พ่อสมบูรณ์แล้ว "ปู่เป็ง" กับ "ย่าจาก" ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากก็ใช้ชีวิตบั้นปลายกัน 2 คนตายายอย่างมีความสุขโดยมี "กันยารัตน์" ลูกสาวคนเล็กดูแลอย่างใกล้ชิด

      ปู่เป็ง  ไม่เคยปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์...สองมือไม่เคยหยุดนิ่งสองเท้ายังเคลื่อนไหว ตราบใดที่ยังมีแรง แม้จะถึงวัยที่ควรจะพักผ่อนก็ตาม...กิจวัตรของปู่ คือ เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ ซ่อมแซมบ้าน ตกเย็นก็ขี่จักรยาน ไปเยี่ยมเยียนคุยกับเพื่อนบ้าน...ไปตลาด

      ภาพชายชราร่างเล็กกับจักรยานคู่กาย ดูเหมือนชินตาชาวบ้านในตลาด อ.จอมบึง วันไหนไม่ได้ซ้อมวิ่ง "ปู่เป็ง"จะขี่จักรยานมานั่งในร้านกาแฟในตลาด ทั้งที่ปู่เป็งไม่ดื่มกาแฟ "ปู่ชอบมานั่งคุยกับเด็กๆ แลกเปลี่ยนความคิดกับลูกๆ หลานในร้านกาแฟได้ความรู้ใหม่ๆ " เป็นเหตุผลที่ทันสมัยของปู่เป็ง

     "การวิ่งเป็นเหมือนยาเสพติด ตอนนี้ปู่ติดการวิ่งงอมแงม ใครห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง มันเป็นความสุข ได้พบผู้คน และทำให้สุขภาพแข็งแรง จึงฝากบอกลูกหลานให้หันมาเสพกีฬา ดีกว่ายาเสพติด "  ปู่เป็งให้ข้อคิดในตอนท้าย

 

     (จาก นสพ.คม ชัด ลึก ฉบับ 19-20 ม.ค.45 และ Sport Vision Jan-Feb 2002 )

ข่าวเมื่อเย็นนี้ (8มี.ค.50 ) บิ๊กจ๊ะ
พาไปดูการฝึกซ้อมของปู่เป็ง เพิงสา นักวิ่งวัย 94 ปี กำลังฝึกซ้อมวิ่ง กับลูกสาว เพื่อเตรียมตัวลงวิ่ง 10 กิโล ในกีฬาผู้สูงวัย
เล่าว่าการแข่งจะมีลูกสาววิ่งไปด้วย

ผู้สื่อข่าวทั้ง3ท่านที่อ่านข่าวเด่นเย็นนี้ อ่านไปดูภาพปู่เป๋ง กำลังซ้อม ทึ่งมาก ผงกหัวยอมรับกันใหญ่ โดยเฉพาะบิ๊กจ๊ะ ถึงกลับเอ่ยปากว่า ที่จริงภาพนี้ก็ดีนะ เอาเป็นช็อตเด็ด ได้เลย

.................................................

ดูปู่เป๋ง ออกทีวีหลายครั้งแล้ว
ใครที่ยังไม่เคยดูลองอ่านย้อนหลังที่นี่

รายการคนค้นตน ของทีวีบูรพา

ปู่เป็ง ชาวนาเชื้อสายมอญ กลายเป็นนักวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. ครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อน พร้อม ๆ กับกลายเป็นคนดังจากถ้ำจอมพล อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เพียงชั่วข้ามคืน เพราะสื่อมวลชนรุมประโคมข่าวความมหัศจรรย์ของนักวิ่งมาราธอนวัย 90 ปี ที่ไม่เพียงแต่สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเข้าเส้นชัยก่อนนักวิ่งอ่อนวัยกว่าอีกเกือบครึ่งของนักวิ่งที่ลงสนามประลองความแข็งแกร่งในครั้งนั้น จากนั้นปู่ก็กลายเป็นเจ้าของสถิตินักวิ่งมาราธอนที่อายุมากที่สุดของประเทศไทย เพราะปราศจากคู่แข่งในวัยเดียวกัน

ปู่เป็ง เพิงสา ชายร่างเล็ก ผอมแกรน แต่แข็งแรงและแข็งแกร่ง ด้วยความที่กรำแดดกรำฝนในเรือกสวนไร่นามาเกือบทั้งชีวิตส่งเสียลูกชายลูกสาวทั้ง 5 คนจนศึกษาจบในระดับปริญญาและมีอาชีพรับราชการครูเกือบทั้งหมด


จวบจนบั้นปลายชีวิตที่ไม่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตนเองและลูกหลาน ปู่มีเวลานั่งมองนักวิ่งหนุ่มสาววิ่งมาราธอนผ่านหน้าบ้าน จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ปู่นึกสนุกออกวิ่งตาม จากการวิ่งออกกำลังกายที่เพิ่มระยะทางมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ปู่ก้าวเข้าสู่วงการนักวิ่ง จากมินิมาราธอน 10 กม. , มินิฮาร์ฟ 22 กม. และมาราธอน 42.195 กม. ทุกครั้งที่ลงสนามปู่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รายการอะไร แข่งที่ไหน ชนะแล้วจะได้อะไรเป็นรางวัล ปู่รู้แต่เพียงว่า ระยะทางเท่าไรและเส้นชัยอยู่ที่ไหน แต่เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ปู่ไม่ได้สนใจใคร่รู้ ปู่รู้แต่เพียงว่า ความสุขของตนเองคือการวิ่ง การเจอะเจอเพื่อนฝูงพบปะผู้คนในสนามแข่งขัน การเดินทางไปวิ่งยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ปู่ไม่เคยไป ปู่ไม่เคยคิดอยากดังตอนแก่ เพราะปู่ไม่เคยดูและไม่สนใจจะดู รายการข่าวหรือรายการโทรทัศน์ยามค่ำคืน ทุกคืนปู่จะสวดมนต์และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อตื่นขึ้นมามีความสุขกับการวิ่งไม่ต่ำจากวันละ 10 กม.

ในยามเช้า ในฐานะนักวิ่งมาราธอน ปู่เป็นเยี่ยงอย่างสำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพกาย ด้วยวิถีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของเกษตรกรจากชนบท มีเพียงอาหารตามธรรมชาติที่ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งหรือเพิ่มสารอาหารบำรุงกำลัง ออกกำลังกายท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ในทุ่งนาป่าเขา ในส่วนของสุขภาพใจ ปู่รักษาไว้ด้วยความเชื่อในบาปบุญคุณโทษตามวิถีแห่งพุทธศาสนิกชน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงไม่ดิ้นรนแสวงหาเพื่อให้เกิดทุกข์ ทุกวันนี้ปู่จึงมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ที่รักและดูแลเอาใจใส่อย่างอบอุ่น แต่การวิ่งและสนามแข่งขัน คือความสุขอันเป็นสีสัน เป็นความท้าทายและเป็นโลกภายนอกที่สดใสสวยงามสำหรับบั้นปลายชีวิตของปู่ ความตั้งใจของปู่ในวันนี้ จึงมีเพียง “วิ่ง” วิ่งต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่วิ่งไม่ไหว….ก็เท่านั้นเอง


ออกอากาศไปเมื่อ

พบกับเรื่องราวชีวิตของปู่เป็งได้ วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม 47

คลิกดูบุคคลต่างๆที่น่าสนใจ คนค้นตน ได้ที่นี่ รวมทั้งเรื่องราวของปู่เย็นเฒ่าทรนง

http://www.tvburabha.com/new/m_oldstory.asp?pg=10

.................................................................................................................................................................................................

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.45<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

เริ่มนับใหม่ 8 มี.ค.50