สัมภาษณ์ปรีย์ธิดา ( ต่าย ) อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย

 

 

Thairunning ขอทราบประวัติส่วนตัวพอสังเขปค่ะ
ต่าย ชื่อ  นางสาวปรีย์ธิดา สมจิตร ชื่อเล่น  ชื่อต่ายค่ะ  เกิดปีพ.ศ.2507
 เป็นชาวจังหวัดน่าน โดยกำเนิด  การศึกษา จบการศึกษาปริญญาโทการศึกษามหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร 
ปัจจุบัน กำลังศึกษาปริญญาโท สาขาการบริหารงานยุติธรรม ปีที่ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 
ทำงานที่   สำนักพัฒนาพฤตินิสัย   กรมราชทัณฑ์   กระทรวงมหาดไทย 
ตำแหน่ง   นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ   ระดับ 7  
Thairunning ทำงานด้วยและเรียนไปด้วย ยังต้องซ้อมวิ่งอีก แบ่งเวลาอย่างไรคะ
ต่าย เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเวลา รู้คุณค่าของเวลา ไม่ค่อยได้เที่ยวหรอกค่ะ ตอนที่ทำปริญญาตรี และตอนทำปริญญาโท ใบแรก เรียนภาคปกติ และยังไม่ได้ทำงาน ก็จะแบ่งเวลาอย่างนี้ค่ะก็ไปเรียนตามปกติ เลิกเรียนก็ซ้อมวิ่ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 6 กม.ขึ้นไป ซ้อมสัปดาห์ละ 4-5 วัน พอกลางคืนก็อ่านหนังสือทบทวนบทเรียน บางคนเล่นกีฬาแล้วบอกว่าทำให้การเรียนตก แต่สำหรับต่ายแล้ว ไม่ตกนะ ต่ายจะได้เกรด 3 ขึ้นไป
ส่วนปัจจุบัน  กำลังเรียนปริญญาโท ภาคค่ำ และก็ทำงานที่กรมราชทัณฑ์ ไปด้วย ซึ่งมีงานมากพอสมควร จะไม่ค่อยได้ซ้อมวิ่งเท่าไหร่ แต่ก็พยายามหาเวลาฝึกซ้อมค่ะ คือต้องแบ่งเวลาให้ได้ค่ะ ต้องทำงานตอนเช้า และไปเรียนตอนเย็น กว่าจะเลิกเรียนก็ 3 ทุ่มแล้ว กว่าจะได้นอนก็ 5 ทุ่ม ก็ต้องหาเวลาซ้อมวิ่งตอนเช้าประมาณ 50 นาที ระยะทาง 4 กม.ขึ้นไปค่ะ อาทิตย์หนึ่งต่ายจะพยายามซ้อมวิ่งให้ได้ อย่างน้อย 3 วันค่ะ และก็ไปซ้อมมากหน่อยในวันเสาร์และอาทิตย์ ไม่ต่ำกว่า 1 ถึง หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง ประมาณ 10 กม. เวลาดูหนังสือก็อาศัยกินข้าวกลางวันเสร็จ ก็ดูหนังสือ และก็ดูช่วงกลางคืนค่ะ ก็ต้องขยันหน่อยค่ะ เหลืออีก 1 ปี ก็จะจบแล้ว
Thairunning ชอบซ้อมวิ่งเช้าหรือเย็นคะ
ต่าย ชอบวิ่งตอนเช้ามากกว่าตอนเย็นค่ะเพราะอากาศดี ร่างกายเราได้พักผ่อนตอนกลางคืน ตื่นขึ้นมาร่างกายสดชื่นกว่า ตอนเย็นที่เหมื่อยล้าจากการงานต่าง ๆ
Thairunning ก้าวมาสู่ถนนนักวิ่งได้อย่างไร
ต่าย  ชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เป็นเด็ก และเป็นตัวแทนของโรงเรียนมาโดยตลอด พอเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ค่อนข้างตั้งใจเรียน จึงไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพเท่าไหร่ ประกอบกับทางภาคเหนืออากาศค่อนข้างเย็น จึงเป็นโรคภูมิแพ้อยู่นาน ก็เลยไปปรึกษาแพทย์ แนะนำให้ออกกำลังกาย จึงหันมาออกกำลังกายเป็นประจำเพราะชอบ และอาการภูมิแพ้ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จากนั้นก็ออกกำลังกายโดยการวิ่งเป็นประจำทุกวัน จนคิดว่ามันเป็นภาระกิจประจำวัน วันไหนไม่ได้วิ่งจะรู้สึกหงุดหงิด และตนเองสนใจเรื่องกีฬา จะชอบติดตามข่าวกีฬา นิตยสาร ทีวี
เห็นมีการแข่งขันวิ่งในกรุงเทพฯ เลยเกิดความคิดว่าอยากเก่ง อยากแข่งขันกับเขาบ้าง

ได้มีโอกาสไปคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัด – เขต ปรากฏว่าได้รับคัดเลือกเข้าเป็นตัวแทนเขต เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ตั้งแต่ครั้งที่ 17 เป็นต้นมา ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ต่อมาได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ประเภทวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร ตั้งแต่กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 13 และได้เป็นตัวแทนเยาวชน ตัวแทนมหาวิทยาลัยในการเข้าร่วมแข่งขันรายการต่างๆ
Thairunning  มีแรงจูงใจอะไรทำให้มาวิ่ง
ต่าย 1. อยากมีสุขภาพที่ดี สุขภาพดีทุกๆอย่างก็จะดีตามมา 
2. การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ประหยัดที่สุด 
3. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 
4. อยากมีโอกาสที่ดีในชีวิต 
5. อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
Thairunning  รางวัลที่ภูมิใจในชีวิตการเป็นนักวิ่ง
ต่าย  การเป็นนักกีฬา การมีชื่อเสียง ทำให้ส่งผลถึงการมีหน้าที่การงานที่ดี ที่เราตั้งใจจะทำและกีฬาเป็นส่วนที่ทำให้การดำเนินชีวิตทุกวันนี้เป็นไปด้วยดี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละบุคคลด้วยว่าจะตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร
Thairunning  ประสบการณ์ที่ประทับใจ และยังอยู่ในใจตลอดกาล
ต่าย การได้เป็นตัวแทนทีมชาติ และถ้าย้อนอดีตไปได้อยากกลับไปเป็นนักกีฬาอีก และจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด 
ซึ่งอดีต (15 ปี ที่ผ่านมา) ความรับผิดชอบยังมีน้อย
Thairunning  บอกชื่อสนามแข่งขันที่ชอบมากที่สุด
ต่าย ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันมาหลายสนามในประเทศไทย ไม่ได้ประทับใจสนามไหนเป็นพิเศษ คือแต่ละสนามมีความประทับใจไม่เหมือนกัน โดยสรุปแล้ว โดยภาพรวมผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันจัดได้ค่อนข้างดี จะมีปัญหาซ้ำๆกัน ของแต่ละสนาม คือ ปัญหาการจราจรและความปลอดภัย นอกนั้นก็อยู่ในขั้นดี
Thairunning  นักกีฬาในดวงใจทั้งชาย และหญิง
ต่าย นักวิ่งต่างประเทศ หญิง คือ เทกล้า โลรูเน้
นักวิ่งของไทย ชาย คือ คุณจิรัฐติกาล บุญมา
นักวิ่งของไทยหญิง คือ คุณเกษีณี อุ่นสะอาด
Thairunning  เทคนิคส่วนตัวในการฝึกซ้อม
ต่าย เทคนิคส่วนตัวไม่มีอะไรมาก คือ ตัวเองมีพื้นฐาน มีทักษะด้านการวิ่งมาก่อนแล้ว เพียงแต่ฝึกซ้อมที่สม่ำเสมอ อีกทั้งก็ต้องขึ้นอยู่กับเวลา คือ ตัวเองจะบอกเทคนิคส่วนตัวไปนั้นคงไม่สามารถนำไปใช้กับคนอื่นได้ เพราะเวลาในการฝึกซ้อมน้อยมาก ทั้งเรียนด้วย ทำงานไปด้วย สำหรับคนที่มีเวลาในการฝึกซ้อม ควรซ้อมอย่างนั้นอาทิตย์ละ 5 วัน ส่วนระยะทางก็ดูว่าเราจะวิ่งระยะเท่าไหร่ 10,21,42 K ก็ฝึกซ้อมให้ได้ระยะทางก็ต่างกัน แต่อย่าลืมซ้อมที่ 10 k เป็นพื้นฐาน เพราะมีทั้งความเร็วและความทนด้วย ส่วนระยะ 21,42 k ก็เพิ่มระยะทางไป แต่ก็อย่าลืมฝึกซ้อมทุกระยะ ต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลเรื่องอาหารด้วย เพราะจะส่งผลในวันแข่งขัน
Thairunning  เทคนิคระหว่างการแข่งขัน
ต่าย ระหว่างการแข่งขันก็ต้องดูว่าตัวเราพร้อมขนาดไหน ซ้อมมาเต็มที่หรือยัง จะรู้ด้วยตัวเอง ถ้าซ้อมมาดีก็ตั้งเป้าไว้เลยว่าจะทำเวลาเท่าไหร่ กิโลละกี่นาที ถ้าซ้อมมาไม่ดีเท่าไหร่นัก ก็พยายามประคองตัวเองไป และก็กำหนดเวลาอีกเช่นกันว่าจะวิ่งเวลาเท่าไหร่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจิตใจ ถ้าตัวเองคิดว่าขณะแข่งขันอยู่นั้นเหนื่อยมาก ก็ลดความเร็วลงบ้าง พอหายเหนื่อยก็เร่งฝีเท้าไปอีก แต่อย่าฝืนกำลังกำลังตัวเอง ก็เกิดผลเสียแก่ตัวเองภายหลัง
Thairunning  รอบเดือนมีผลกระทบต่อนักวิ่งหญิงและนักวิ่งแนวหน้าอย่างไรบ้างคะ
ต่าย  ปัญหาของนักกีฬาหญิงก็เป็นที่ทราบกันดีว่าคือ รอบเดือน เพราะรอบเดือนทำให้สภาพร่างกายเมื่อยล้า ปวดท้อง หงุดหงิด การซ้อมก็อย่าหนักมากให้พอดีๆ ไม่เหนื่อยเกินไป ถ้าสภาพร่างกายเหนื่อยมากๆ โอกาสจะทำให้เกิดอาการอื่นๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะการเป็นไข้หวัด ถ้าสภาพ ร่างกายไม่พร้อม ประกอบกับพักผ่อนน้อย โอกาสที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมีมาก ฉะนั้นการมี รอบเดือนมีผลต่อนักกีฬาหญิงมาก อีกทั้งทำให้เกิดความไม่มั่นใจในขณะแข่งขัน เกิดความวิตกกังวลต่างๆ จากประสบการณ์แล้วที่นักวิ่งที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ๆ สำคัญๆ นักวิ่งจะทานยาให้มีการเลื่อนการเป็นรอบเดือนไปอีก ไม่ให้เป็นขณะแข่งขัน ด้วยเหตุผล หลายๆอย่างดังกล่าวแล้ว ความคิดส่วนตัวแล้ว ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อจะไม่ให้มีผลกระทบต่างๆต่อร่างกายตามมาภายหลัง
Thairunning  มองวงการวิ่งของเมืองไทยในปัจจุบันเป็นเช่นไร
ต่าย วงการวิ่งของเมืองไทยในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับ10 ปี ที่แล้ว จะเห็นว่าปัจจุบันประชาชนเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น จะเห็นได้จากจำนวนที่เข้าร่วมแข่งขัน
ด้านอายุ ปัจจุบันผู้สูงอายุหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น 
ในแง่ของรางวัลต่างๆ ที่ได้รับมากขึ้น เพราะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน ถ้าผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันจะดำเนินงานไปในเชิงธุรกิจ ถ้าเน้นเชิงธุรกิจจะมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มที่เน้นด้านรางวัล กลุ่มที่เป็นด้านการกุศล ก็จะเน้นเพื่อสุขภาพ จะมีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มดังกล่าว

ถ้ารัฐบาลมุ่งให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะเยาวชน รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ไม่ว่าสถานที่ที่ใช้ออกกำลังกาย อุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกาย ต้องมีการควบคุมไม่ให้มีราคาแพงเกินไป และการปลูกจิตสำนึกของเยาวชนให้เห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย และจะได้ห่างไกลจากยาเสพย์ติด ซึ่งเป็นปัญหาอย่างรุนแรงในขณะนี้ ฉะนั้นการจัดงานวิ่ง ควรให้ความสำคัญกับเยาวชนด้วย พร้อมกับสถานศึกษาต้องรองรับเยาวชนที่มีความสามารถเข้าศึกษา เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬา ออกกำลังกายมากขึ้น
Thairunning  อยากให้ ฝากข้อคิดแก่นักวิ่ง
ต่าย  การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและประหยัดที่สุด และโดยส่วนตัวจะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพมาก สุขภาพกายดี สุขภาพจิตต้องดี ทำให้ส่งผลถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้วย 
การวิ่งถ้าตั้งเป้าหมายไว้ว่า อันดับ 1 เพื่อสุขภาพก่อน ส่วนรางวัลผลตอบแทนเป็นสิ่งที่ตามมา ถ้าคิดอย่างนี้แล้วทำให้นักวิ่งสบายใจ สภาพจิตใจก็ดี ถ้ามุ่งหวังเรื่องรางวัลค่าตอบแทนมาอันดับ 1 สุขภาพตามมา ทีหลัง ถ้าไม่ได้ดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็จะเกิดความเครียดมีผลต่อสภาพร่างกายตามมา การวิ่งเป็นการหาประสบการณ์ ให้กับตัวเอง ทำให้ได้พบปะกับสังคมทุกระดับ ฉะนั้นนักวิ่งแนวหน้าส่วนใหญ่ จะมีความสามารถทุกคน และมีโอกาสรับรางวัล แต่อย่ามุ่งหวังรางวัลเพียง อย่างเดียว ให้ได้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน เช่นให้ได้ทั้งรางวัล ได้สุขภาพ ได้สังคม และอย่าลืมความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
thairunning  คุณต่ายต้องไปดูงาน ราชทัณฑ์ ในต่างจังหวัดหลาย ๆ แห่งด้วย ระวังถูกนักโทษจับเป็นตัวประกันนะคะ
ต่าย (หัวเราะชอบใจ ) ไม่เป็นไรค่ะ วิ่งเร็วอยู่แล้ว คงวิ่งหนีทันค่ะ
thairunning  ขอบคุณค่ะที่ให้สัมภาษณ์

 

 สัมภาษณ์ เมื่อ 9 มีนาคม 2544