การบาดเจ็บที่เอ็นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่ากล้ามเนื้อ เพราะขนาดเล็กกว่า เมื่อมีแรงดึงรั้งยืดหด จึงต้องรับแรงมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบขนาดของหน้าตัด และตำแหน่งที่อยู่ ก็มักจะเสียดสีกับกระดูกและเส้นเอ็นด้วยกัน
เอ็นเป็นตัวเชื่อมระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูก มีหน้าที่ยืดหดตัว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้ ประกอบด้วย เอ็นและเยื่อหุ้มเอ็น การบาดเจ็บที่เอ็นแบ่งได้ดังนี้
1.เยื่อหุ้มเอ็นอักเสบ
ที่พบได้บ่อย ๆ จากการวิ่ง คือ เยื่อหุ้มเอ็นร้อยหวาย ใต้ตาตุ่มด้านนอก เกิดจากการใช้งานมากเกินไป เช่นวิ่งมากเกินไป ทำให้มีอาการปวดรอบ ๆ เอ็น อาจเป็นแบบเฉียบพลันหรือแบบเรื้อรัง
การปฐมพยาบาลและการรักษา
ในรายเฉียบพลันให้การปฐมพยาบาลทั่วๆ ไป คือ น้ำเย็นประคบและให้ยาต้านอักเสบนาน 3 สัปดาห์พร้อมๆ กับการรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น ประคบน้ำร้อน หรือคลื่นเหนือเสียง ( อุลตราซาวส์ ) ไม่ควรฉีดยาต้านอักเสบ สเตียรอยด์ เฉพาะที่ เพราะอาจทำให้เอ็นขาดได้ถ้าไปวิ่งหนัก ๆ ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจต้องผ่าตัดเอาเยื่อหุ้มเอ็นออกถ้ารักษา โดยวิธีดังกล่าวแล้วไม่หาย
การป้องกัน
1. หลีกเลี่ยงการวิ่งมากเกินไปทันที ค่อย ๆ เพิ่มการฝึกทีละน้อย
2. บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่เสมอ ( เอ็นที่อยู่ต่อกับกล้ามเนื้อ จะแข็งแรงตามไปด้วย )
2.เอ็นอักเสบ
เป็นการอักเสบของตัวเอ็นเอง มักพบภายในส่วนกลางที่มีเลือดมาเลี้ยงน้อย เกิดจากการวิ่งหรือซ้อมหนักมากเกินไป หรืออุปกรณ์ไม่ถูกต้อง เช่น รองเท้าแข็งและส้นเตี้ยเกินไป พื้นวิ่งแข็งมากหรือมีการวิ่งเพิ่มสปีด อย่างกะทันหัน ที่พบได้บ่อย ๆ คือ เอ็นร้อยหวายอักเสบ จะมีอาการเจ็บกดเจ็บมักมีอาการปวดในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากวิ่งฝึกซ้อมหนักหรือวิ่งมากเกินไป สาย ๆ อาการจะน้อยลงไป เมื่อเริ่มวิ่งจะมีอาการปวดอีก
การปฐมพยาบาลและการรักษา
เหมือน ๆ กับการปฐมพยาบาลปลอกเอ็น มักไม่ค่อยใช้วิธีผ่าตัดรักษาการให้พักให้ยาต้านอักเสบ เสริมส้นรองเท้าและทำกายภาพบำบัดทำให้อาการหายได้
การป้องกัน
1. ค่อย ๆ วิ่งเพิ่มการฝึกทีละน้อย อย่าหักโหมหรือเพิ่มอัตราความเร็วกะทันหัน
2. บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่เสมอ
3.เสริมส้นรองเท้าให้สูงพอเหมาะและนิ่ม เลี่ยงการวิ่งบนพื้นแข็ง
3.เอ็นฉีกขาด
มักพบในนักวิ่งสูงอายุ ( มากกว่า 40 ปี ) เนื่องจากการวิ่งที่ต้องเปลี่ยนทิศทาง และความเร็วทันทีทันใด เช่นวิ่งหลบหลุ่มบ่อ มีทั้งการฉีกขาดเป็นบางส่วน และการฉีกขาดโดยสมบูรณ์ มักพบที่เอ็นร้อยหวายซึ่งเสื่อมจากการใช้งานมาก หรือพวกที่เคยได้รับการฉีดยา ต้านการอักเสบ สเตียรอยด์ เข้าไปในเอ็น เมื่อมีการฉีกขาดเกิดขึ้นขณะวิ่ง จะเจ็บปวดทันที บวม วิ่งต่อไปไม่ได้ ถ้าฉีกขาดมากถึงกับขาดโดยสมบูรณ์ จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้เช่น กระดูกข้อเท้าลงไม่ได้ เป็นต้น
การปฐมพยาบาลและการรักษา
ใช้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั่วไป จากนั้นควรให้แพทย์ รักษา ถ้าไม่สามารถหายไปได้เองใน 3 วัน ถ้ามีการฉีกขาดเป็นบางส่วนต้องใช้เฝือก ควรเป็นเฝือกอ่อน ( การพันปลาสเตอร์ ) หรือเฝือกปูน ถ้าฉีกขาดโดยสมบูรณ์ หรือเกือบสมบูรณ์ ( 50-100 % ) ต้องรักษาโดยการผ่าตัดต่อเอ็น แล้วใส่เผือกไว้ 3-6 สัปดาห์ จากนั้นบริหารก็จะกลับมาวิ่งได้ตามปกติ
การป้องกัน
1. หลีกเลี่ยง การวิ่งที่เปลี่ยนทิศทางและความเร็วทันที เช่น วิ่งหลบหลุมบ่อ ดังนั้นสนามพื้นที่วิ่งจึงความสำคัญมาก
2. บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรงอยู่เสมอ
( หนังสือ บาดเจ็บจากการวิ่ง โดย..รศ.นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ )