<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_interview_Pricha.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> สัมภาษณ์ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9

 

สัมภาษณ์ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9

นายปรีชา  บูรณะไทย

 

Thairunning.com ขอทราบประวัติส่วนตัวย่อ ๆ และประวัติการทำงานค่ะ 
นายปรีชา  บูรณะไทย

ปัจจุบันผมอายุ 60 ปีแล้ว เป็นคนอ่างทอง  มีบุตรสาว 2 คน  เรียนจบ  ทำงานแล้ว

ผมเรียนจบนิติศาสตร์  ธรรมศาสตร์ เข้าเรียนเมื่อปี 2502 จบปี 2506

จบเนติบัณฑิตปี พ.ศ.2508 หรือเนติบัณฑิตสมัย 17  เนติบัณฑิตรุ่นปัจจุบันเป็นสมัยที่  43 แล้ว

พ.ศ.  2511  เป็นผู้พิพากษา (เมื่อก่อนไม่มีการสอบผู้พิพากษาทุกปี ) แล้วก็รับราชการอยู่บ้านนอก เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดอุดรธานีอยู่ 4 ปี

พ.ศ.  2517    เป็นผู้พิพากษาจังหวัดชลบุรี

พ.ศ.  2522    เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสกลนคร

พ.ศ.  2525    เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี

พ.ศ.  2527    ย้ายเข้ากรุงเทพฯเป็นผู้พิพากษาศาลแพ่ง

พ.ศ.  2529    เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลอาญาธนบุรี

พ.ศ.  2535    เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์

พ.ศ.  2536    เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลอุทธรณ์

พ.ศ.  2537    เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรี

พ.ศ.  2539    เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 1

                     ท้ายที่สุดก็ย้ายขึ้นเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาแล้วก็ย้ายกลับมาเป็น รองอธิบดีศาลอุทธรณ์

เป็นอธิบดีศาลอาญากรุงเทพใต้

                     ปัจจุบันนี้เป็นประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9  

 

Thairunning.com ท่านเริ่มเดินออกกำลังกายเพื่อสุขภาพตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
นายปรีชา  บูรณะไทย
เริ่มเดินออกกำลังเมื่อปี 2524 ก่อนที่จะเดิน ใช้วิธีวิ่งมาหลายปี

ก่อนใช้วิธีวิ่งก็ออกกำลังกายอย่างอื่นเช่น ตีกอล์ฟ แต่ปัจจุบันไม่ได้ตีกอล์ฟแล้ว

เพราะค่าสนามในกรุงเทพฯ แพง เกินฐานะเรา  เมื่อก่อนตอนอยู่ต่างจังหวัดจะตีกอล์ฟ

เพราะค่าสนามและค่าแค๊ตดี้ ถูก

และตอนสมัยเด็ก ๆ  ก็เล่นบาสเก็ตบอลล์

ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็ชอบเพาะกาย ชอบเต้นรำ  หมายความว่า เป็นคนที่ออกกำลังกายมาตลอด

เพียงแต่ว่าเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายไปตามสถานการณ์ และการทำงาน

 

Thairunning.com ปัจจุบันท่านเดินออกกำลังกายสัปดาห์ละกี่วัน และใช้เวลาเดินนานแค่ไหนในแต่ละครั้งคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย
ถือว่าเป็นหน้าที่ก็ต้องมาเดินทุกวัน เว้นแต่ฝนตก มาไม่ได้ตอนเช้า ก็มาตอนเย็นแทน หรือตอนเย็นติดภารกิจ  มาไม่ได้ เช่นมีงานศพ งานแต่ง   ทำให้มาไม่ได้ แต่จะหยุดเพราะมีอุปสรรค เป็นงานจำเป็นมาไม่ได้จริง ๆ จะหยุดไปไม่เกิน สัปดาห์ละ 2 วัน ไม่เคยหยุดเกิน 2 วัน  โดยปกติจะต้องมาเดินทุกวัน  สัปดาห์หนึ่งก็เดินทั้ง 7 วันเลย ครับ

เดินอย่างน้อยที่สุดก็ 5 รอบ (  ประมาณ 850 เมตร  เดินในสวนพฤกษ์ หลังการเคหะแห่งชาติ  บางกะปิ ) บางวันก็เดินถึง 9 รอบ เว้นแต่วันไหนมีเพื่อนเดิน เพื่อนคุย สนุกสนานเพลิดเพลิน  ก็เดินมากหน่อย ถ้าเดินเป็นหน้าที่แล้ว อย่างน้อย 5 - 6 รอบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตั้งแต่ต้นจนจบรอบสุดท้ายประมาณ 45 นาที ออกเดินช้า ๆ ประมาณสัก 10 นาที ก่อน และก็ค่อย ๆ เร็วขึ้น ตามลำดับ จนท้ายที่สุดนี่ คิด 6 รอบ ก็ประมาณ 45 นาที จบ

 

Thairunning.com ท่านเดินออกกำลังกายเป็นเวลานานนับ 20 ปี ท่านมีวิธีทำให้ไม่เบื่ออย่างไรคะ เพราะการเดินจะใช้เวลานานกว่าการวิ่ง  บางคนก็จะเบื่อและล้มเลิกการเดินออกกำลังกายไปในที่สุด
นายปรีชา  บูรณะไทย
ก็ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง  ในแต่ละวัน  ที่เราต้องสละเวลา แม้กระทั่งการที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้อาจจะมีเสียงไม่ไพเราะ เพราะมีเสียงรบกวน สอดแทรก เข้ามาบ้าง ก็เพราะเป็นการเดินให้สัมภาษณ์ไปด้วย ไม่มีการหยุดให้สัมภาษณ์ เพราะถือว่าได้สละเวลามาจากบ้านแล้วเพื่อมาเดินออกกำลังกาย เพื่ออย่างน้อยที่สุดก็ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะไปทำภารกิจประจำ  เพราะว่าตื่นเช้ามา  เราตั้งใจที่จะออกมาเดิน เราก็ต้องตื่นตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง  เพื่อเตรียมตัวออกมาเดิน  หลังจากนั้น ก็ต้องกระวีกระวาด ไปทำงาน เพราะที่ทำงานอยู่ไกล บ้านอยู่แถวบางกะปิ แต่ที่ทำงานอยู่บางขุนเทียน  อาศัยว่าขึ้นทางด่วน 2 ตอน ก็ช่วยทุ่นเวลา การเดินทางไปได้

 

Thairunning.com

 ปัจจุบันท่านหันมาเอาใจใส่เรื่องอาหารการกิน ทราบว่าท่านรับประทานข้าวกล้องด้วย

นายปรีชา  บูรณะไทย
ผมพยายามทานข้าวกล้อง วันละ2 หรือ 3 มื้อ ถ้าเป็นไปได้  คือว่ามื้อเช้านี่ เราก็เตรียมข้าวกล้องไปทานของเราอยู่แล้ว เราก็ใช้ทานในรถแบบเด็กนักเรียนสมัยนี้ พ่อแม่ป้อนในรถ ที่นี้เราก็ป้อนเองในรถ (หัวเราะ)

ส่วนมื้อกลางวันถ้าวันไหนไม่มีการไปทานข้างนอก ออกไปทานเลี้ยง เราก็จะห่อข้าวกล่องนี้แหละไป พร้อมผัก ที่ผัดจืด ๆ เช่นผัดผักกาดขาว หรือผัดฟักทอง หรือบางวันจะเป็นผัดไท ก็จะรับประทานอยู่แค่นั้น พยายามให้มีผักประกอบอยู่ด้วยอย่างหนึ่ง ในมื้อนั้น ๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ หรืออาจมีเผ็ดบ้างเช่นผัดกระเพราไก่

ส่วนมื้อมื้อเย็นก็จะมีร้านประจำ ก็บอกเขาว่าอยากจะกินข้าวกล้อง เขาก็จัดข้าวกล้องมาให้  ปกติที่บ้านผมจะไม่ทำกับข้าวทานกัน  ก็จะไปซื้อเอาข้างนอก เพียงแต่ว่า หุงข้าวกล้องเอาไปเผื่อต้องการกินข้าวกล้องเท่านั้นเอง อาหารเราอาจจะซื้อตั้งแต่ตอนเย็น พอตอนเช้าก็เข้าไมโครเวฟ

และก็เอาไปกินในรถ ก็จะกินตอนรถขึ้นทางด่วน เพราะจะนิ่งหน่อย
ถ้ารถยังวิ่งอยู่แถวบางกะปิ เราก็ยังทานไม่ได้ เพราะเคยทานแล้วมันหก ( หัวเราะ ) เพราะพอคนขับรถเบรคขึ้นมา เราไม่ทันระวังตัว  เลยต้องอาศัยทานบนทางด่วน เพราะต้องขึ้นทางด่วนทั้ง 2 โครงการเลย  ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2  ก็ขึ้นจากรามอินทรา  ก็เริ่มทานตั้งแต่ทางด่วนแรก พอถึงสะพานแขวน สะพานพระราม 9 ก็หมดแล้วอิ่มแล้วมื้อเช้า

สรุปก็หุงข้าวกล้องที่บ้านส่วนกับข้าวก็สั่งเอาจากภัตตาคาร ซึ่งเราสามารถสั่งอาหารได้ทุกอย่าง ก็สั่งไว้ตั้งแต่ตอนเย็น ตอนเช้าก็เข้าไมโครเวฟ

 

Thairunning.com การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพียงอย่างเดียว  แต่ละเลยดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีผลต่อโรคภัยไข้เจ็บ ท่านมีความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไรคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย  
มีแน่นอนผมกว่าจะรู้ก็เกือบสายเกินไป เพิ่งมากินข้าวกล้องได้เพียง 2-3 ปี มานี่เอง เมื่อก่อนชอบรับประทานหมูหันมาก ปัจจุบันนี้ก็เถอะ ก็ยังชอบอยู่  หมูหันนี่คือยอดของคลอเรสเตอรอล ของความมันทั้งหลาย แต่ผมก็ใช้วิธีพยายามทานหมูหันของโปรดให้น้อยลง  แต่เนื่องจากว่าเพื่อน ๆ เขาอุปโลกน์ยกเมฆให้ผมเป็นคนสั่งอาหารไง ที่นี้พอไปทานโต๊ะจีนกัน สุดยอดอาหารของโต๊ะจีนก็ต้องมี  หมูหัน กับหูฉลามแน่นอน เป็นเครื่องประกอบอาหารโต๊ะจีน  ที่นี้พอเรากินไม่ได้   จะไม่สั่งหมูหัน  เพื่อน ๆ ก็อาจจะว่าได้ว่า  " พอลื้อกินไม่ได้ ลื้อก็ไม่สั่ง "  เราก็ต้องสั่งหมูหัน  แต่เราก็ใช้วิธีตั้งสัจจะในหมู่เพื่อนๆ ในวงเหล้าว่า " หมูหันนี่ใครกินหมดก็กินไป  แต่ถ้าไม่หมดหมุนถึง 10 รอบ อั๊วถึงจะกินซักชิ้นหนึ่ง " เพราะฉะนั้นใครจะมาให้เรากินก็ต้องหมุนจนกว่าจะครบ 10 รอบก่อน  ถ้ามันเหลือจริง ๆ ก็ถึงจะกิน  ถ้าหมดก็ไม่ต้องกิน 

 

Thairunning.com  และส่วนมากหมุน 10 รอบแล้วยังเหลือมั้ยคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย  
ส่วนมากก็เหลือสัก ชิ้น หรือสองชิ้น  ก็กินไปตามสัจจะวาจา ( หัวเราะ ) ก็พยายามหลีกเลี่ยง เพราะผม เป็นโรคหัวใจ และ เบาหวาน ด้วย  ก็กินให้มันน้อยที่สุด ทั้ง ๆ ที่มันเป็นของชอบ  แต่มันก็อันตราย

และที่มันยังเหลือมาถึงผมนี่เพราะเพื่อนๆ ส่วนมากก็เริ่มชราตาม ๆ กัน ก็กลัวๆ กัน  และวิธีสั่งหมูหันของผมเดี๋ยวนี้ก็สั่งหมูหันแบบฮ่องกง คือ ย่างทั้งเนื้อและหนังรวมกันไปเลย  สมัยก่อนหมูหันกินแต่หนังก่อน ก็ยังเหลือเนื้อไปทำอย่างอื่น  พอเราไม่กินหนัง  ก็ยังเหลือเนื้ออีกตั้งเยอะ ก็ต้องทำให้เรากินจนได้  ก็เลยต้องย่างแบบฮ่องกง คือกินหมดแล้วหมดเลย

 

Thairunning.com  ท่านจะทานปลา ผัก และผลไม้ เป็นประจำใช่มั้ยคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย
ปลานี่ พอพูดคุยกับคุณหมอแล้วก็รู้สึกว่า ทานปลาอย่างเดียว อาจจะไม่เกิดประโยชน์อะไร  ถ้าไม่เน้นปลาอย่างใด  อย่างหนึ่ง  อย่างคุณหมอท่านก็สอนว่า จะกินปลาไม่ใช่สักแต่กินปลา  แลัวมันจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มันไม่ใช่  เพียงแต่มันไม่เป็นผลร้าย ก็คือกินเข้าไปไม่เป็นประโยชน์อะไร  คือกินให้มันเอร็ดอร่อย เท่านั้น  ส่วนปลาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หมอบอกว่า มี ปลาทู  ปลาช่อน  และปลาซาบะ เพราะปลาที่ว่านี้มันจะมีไขมันตัวที่ดี ซึ่งภาษาหมอแล้วเรียกไม่ถูก
Thairunning.com  ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับอายุราชการของผู้พิพากษา ซึ่งจะปลดเกษียณอายุ เมื่อ อายุ70 ปี  ทั้ง ๆ ที่ข้าราชการอื่นปลดเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี อยากให้ท่านช่วยเล่าการเกษียณอายุของผู้พิพากษาด้วยค่ะ
นายปรีชา  บูรณะไทย  
ผู้พิพากษาพออายุ 60 ปี จะปลดเกษียณจากตำแหน่งบริหาร  ไม่ได้เป็นอธิบดี ไม่ได้เป็นประธานต่อไปแล้ว  แต่ต้องกลับมาเป็นผู้พิพากษาใหม่  ต้องขึ้นบัลลังก์ คือต้องการให้ศาลชั้นต้นเข้มแข็ง  เพราะราษฏร์ มีความวิตกกันว่า ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นที่อยู่กันตามบ้านนอก  ตามเมืองใหญ่ ๆ มีประสบการณ์น้อยทั้ง ๆ ที่มีคดีใหญ่ ๆ บ้านนอกก็มีเยอะแยะทำให้ไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้พิพากษาที่อาวุโสพอสมควร  เพราะฉะนั้นตั้งผู้พิพากษาที่เกษียณอายุราชการแล้ว  ให้ไปเป็นผู้พิพากษาอาวุโส  ประจำศาลชั้นต้น  เพื่อคอยเป็นหลัก ให้กับศาลชั้นต้น  ทำนองเหมือนกับเป็นที่ปรึกษา อะไรทำนองนั้น  คือพออายุ 60 ปีบริบูรณ์ ก็กลับไปอยู่ศาลชั้นต้นใหม่  พออายุ 65 ปี ก็มีการตรวจสุขภาพอีกครั้งว่า ไหวมั้ย   ถ้าสุขภาพยังดี ยังไหว สติปัญญา ยังดีอยู่ ไม่เลอะเลือน จนกระทั่งหลงไป เพราะบางคนก็หลงไปแล้วก็มี   โดยมีจิตแพทย์มาตรวจอะไรอย่างนี้  ก็ต้องต่ออายุราชการให้   แล้วก็ต่ออายุราชการให้ไปถึง อายุ70 ปี   เพราะพวกอารยะประเทศ  บางประเทศ  ผู้พิพากษาเขาเป็นจนตาย  เหมือนอย่างพระนี้เลย ถ้าเป็นแล้วเป็นจนตายไปเลย  

แต่ของเรานี้ก็ให้ถึง 70 ปี

 

Thairunning.com เหตุผลที่ให้อายุราชการของผู้พิพากษาถึง 70 ปี เนื่องจากผู้พิพากษาขาดแคลน หรือมีจำนวนน้อยไม่พอเพียงด้วย หรือเปล่าคะ 
นายปรีชา  บูรณะไทย  
ไม่ได้ขาดแคลน  ปัจจุบันมีผู้พิพากษาทั้งประเทศประมาณ  2,600  เศษ ถ้ารวมผู้ช่วยผู้พิพากษา และคนผู้ที่สอบได้ สอบเข้าไปได้ใหม่ ๆ แต่ยังไม่ได้บรรจุด้วย ก็ประมาณ 2,800 คนกว่า ๆ 
แต่ในศาลชั้นต้นจะมีผู้พิพากษาอาวุโสน้อย  เพราะเหตุว่าเราใช้ระบบเลื่อนอาวุโสกันขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกคนเนี่ย จบมาใหม่ ๆ ต้องไปอยู่บ้านนอก 15 ปี ก่อน ส่วนมากต้องไปอยู่ไกล ๆ แล้วถึงย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ ตามที่ ที่สอบไล่ได้  ใครสอบได้ที่ดี  ก็มีสิทธิ์ที่เลือกมาอยู่ใกล้ ๆ  ใครสอบได้ไม่ดีก็ไปอยู่ไกล ๆ อย่างเราได้ที่ไม่ดี ได้ที่กลาง ๆ  รุ่นนั้นมีสอบได้ 77 คน  เราสอบได้ที่ 34 เราก็ไปอยู่กลาง ๆ ไปอยู่แถวอุดร  พออยู่อุดร 4 ปี เราก็ย้ายไปอยู่ชลบุรี  ซึ่งใกล้กว่าอะไรอย่างนี้  หัวหน้าศาลก็เหมือนกัน  ไปทีแรกก็ให้ออกไปไกล  แล้วก็ย้ายเข้ามาใกล้ ๆ พอเป็นหัวหน้าศาลครบคนละ 4 ปี แล้วก็ต้องเข้ามากรุงเทพเป็นผู้พิพากษาศาลอาญา  ศาลแพ่ง  และก็เลื่อนขึ้นศาลอุทธรณ์  ศาลฏีกา  แล้วถึงจะกลับย้อนลงมาเป็นผู้บริหารศาล  เป็นอธิบดี  เป็นประธานศาล  แบบนี้

เพราะฉะนั้นในศาลชั้นต้น  จึงมีแต่ผู้พิพากษาที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม  บางคนพอเขาเห็นหน้าผู้พิพากษาแล้ว ก็ร้อง " โอ้ โห!   ทำไมผู้พิพากษาแก่ ๆ ไม่มีเหรอ "

ฉะนั้นก็เอาล่ะจ้างคนแก่ดีกว่า โดยให้เงินเดือนสูง  ให้สูง เมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้เงินเดือนสูงกว่ารับราชการอีก 1 ขั้น  และเงินประจำตำแหน่งก็จะสูงขึ้นอีก  1 ขั้น  หมายความว่า จ้าง อยากให้อยู่นั่นเอง  จะได้ไม่ต้องไปหางานที่อื่นทำ  ซึ่งมันไม่มีทางที่จะมีรายได้ดีเท่านี้แล้ว

 

Thairunning.com  ส่วนมากมักจะถูกเชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัทต่าง ๆ ใช่มั้ยคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย
 ก็ทำนองอย่างนั้น  แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีบริษัทไหนที่จะให้เงินเดือนสูงเท่ากับผู้พิพากษาอาวุโสแล้ว  เงินเดือนก็สูง  เงินประจำตำแหน่งก็สูง  แล้วถ้าคนที่ออกไปยังเงินเดือนต่ำอยู่  ก็จะเลื่อนขึ้นไป  จนท้ายที่สุด ทุกคนก็เงินเดือนเท่ากับประธานศาลฏีกาหมด   ก็เป็นการจูงใจให้มีคนแก่ๆ อยู่

สมัยเดิมเนี่ยเขาคิดกันว่า ผู้พิพากษาอาวุโส ควรจะอาวุโสในการทำงานมา อย่างน้อยเป็นหัวหน้าคณะศาลอุทธรณ์ขึ้นไป  ถึงให้เป็นผู้พิพากษาอาวุโส  แต่พอนิติบัญญัติ ไปร่างกฏหมาย  ร่างไปร่างมา  มันเลยกลายเป็นไม่มีข้อจำกัดอันนี้  กลายเป็นคนอายุ 60 ปีบริบูรณ์แล้วเป็นผู้พิพากษาอาวุโส   ซึ่งไม่ค่อยอาวุโส   คือบางคนสอบเป็นผู้พิพากษาได้ตอนอายุ 50 ปี กว่าแล้วอย่างนี้  แล้วพออายุ 60 เลยกลายเป็นผู้พิพากษาอาวุโสไป  ซึ่งกลายไปเป็นคนแบบนี้  ไม่ใช่เป็นการวางรากฐานให้แก่ศาลชั้นต้น  กลับกลายเป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ทำนองนั้นไป  แต่ว่าก็มีจำนวนน้อยที่เป็นแบบนี้

 

Thairunning.com ผู้พิพากษาอาวุโสเริ่มมากี่ปีแล้วคะ และส่วนมากอยู่ในกรุงเทพหรือตามต่างจังหวัดคะ
นายปรีชา  บูรณะไทย
เริ่มมาได้ 3 ปี แล้ว จะอยู่ต่างจังหวัด หรือในกรุงเทพก็ได้  เพราะว่าก็เป็นศาลชั้นต้นเหมือนกัน  แต่ว่าในกรุงเทพมีผู้พิพากษาอาวุโสไปแล้ว 2 รุ่น ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างจะเต็ม ก็ต้องตีวงรอบ ออกไปเรื่อย

 

Thairunning.com  อยากทราบว่าท่านมีหลักในการทำงานอย่างไรคะเพราะท่านสามารถดำรงตำแหน่งในระดับสูงของข้าราชการตุลาการ
นายปรีชา  บูรณะไทย
อันนี้จะใช้บรรทัดฐานอะไรไม่ได้ เพราะผมเป็นฝ่ายศาลยุติธรรม  
หลักในการทำงานก็ทำงานด้วยความขยันขันแข็งในการทำงาน  ทำงานด้วยความสุจริต ละเว้นสิ่งที่ควรละเว้น ประพฤติสิ่งที่ควรประพฤติ แค่นั้นก็เป็นที่เข้าใจกันได้  แต่ความเจริญก้าวหน้าของคนนี่  มันอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ  ต้องเป็นคนที่มีความประพฤติดี  ทำงานดี  ทำงานเก่งในสายตาของนายแล้ว   แล้วก็ยังจะต้องมีนายที่ดี  ที่คอยช่วยสนับสนุน  หรือมองเห็นคุณความดีอันนี้  ถ้าเราไปเจอนายไม่ดี  เราก็ไม่ดี

แต่เราโชคดี ที่ว่า ไปเจอเอานายที่ดี  เมื่อทำความดี  นายก็เห็นอะไรอย่างนี้  แล้วก็ยังไปเจอเพื่อนดี ที่ไม่อิจฉา ริษยา  เพราะรู้ว่าเราเป็นคนทำงาน  เมื่อถึงวาระที่เราจะได้ตำแหน่งอะไรที่เราควรจะได้ ทุกคน ก็ไม่มีใครขัดขวาง  ก็มีแต่ว่าหลีกทางไป  ก็ทำให้เราได้มีทางเลือกที่ดีในชีวิต  เพราะว่ามีเพื่อนที่ดี  มีนายที่ดี และก็ขยันเท่านั้นเอง

 

Thairunning.com ในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อยากให้ท่านให้แง่คิดเรื่องนี้แก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไป ที่มีอีกจำนวนมากไม่เอาใจใส่เรื่องการออกกำลังกาย และมักอ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา
นายปรีชา  บูรณะไทย
ก็ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ อย่างหนึ่ง  ในรอบวัน   วันหนึ่งมีตั้ง 24 ชั่วโมง เราจะเสียสละเวลา ให้มัน แค่ 1 ชั่วโมง   เพื่อสุขภาพดี ๆ ของเราเนี่ย  เชื่อว่าเราต้องทำได้  ถ้าตั้งใจทำ  มีความตั้งใจจริง

อย่างอุปสรรคที่ผมว่า เช่นเช้าฝนตก  เย็นก็ต้องไปงานศพ งานแต่งงาน  ทำอะไรไม่ได้ 1 วันผ่านไป  พอวันที่ 2 ก็ยังมีภาระกิจยังงั้นอีก  เราก็ใช้วิธีแก้ ก็คือว่าที่บ้านมีสายพานออกกำลังกาย เหมือนอย่างที่คุณหมอใช้เทสต์คนเป็นโรคหัวใจ  พอเวลาที่มันจำเป็น ไม่สามารถมาออกกำลังกายตามสนามข้างนอกได้ เช้าฝนตก เย็นติดภาระกิจไปโน่นไปนี่  ก็จะใช้วิธีเดินสายพานที่บ้านแทน  เรียกได้ว่า เดินออกกำลังกายทั้ง 7 วันเลย ก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน

 

Thairunning.com ขอบคุณค่ะ

 

หมายเหตุ :   สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 9 มิ.ย.44 ภายในบริเวณสวนพฤกษ์ หลังการเคหะแห่งชาติ แถวบางกะปิ

ผู้เยี่ยมชม ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.44<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

เลือกวิ่งตามอายุ

วิ่งไปกับเบาหวาน

เดินสลับวิ่งดีจริงหรือ