คุณธนพล อุ่นเรือน
อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ประเภทจักรยาน


การออกกำลังกายโดยการวิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมกีฬาหลายๆ ประเภท เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่ง หรือความอดทน กีฬาประเภทจักรยาน หรือ แม้กระทั่งยิมนาสติกก็เช่นกัน

เราได้รับเกียรติจากอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ประเภทจักรยาน คุณธนพล อุ่นเรือน และประเภทยิมนาสติก คุณธีราภรณ์ อุ่นเรือน (โพธิ์พานิช)  ได้เล่าถึงเสี้ยวส่วนหนึ่งของการเข้าเป็น นักกีฬาทีมชาติไทยในสมัยนั้น

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ ธนพล อุ่นเรือน

เกิด 21 ตุลาคม 2506 อายุ 37 ปี

เป็นชาวจังหวัดพะเยา

อาชีพปัจจุบัน รับราชการตำรวจ

การศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต ม.รามคำแหง

ประวัติทางด้านการกีฬา

แรกเริ่มเป็นนักกีฬาเซปักตะกร้อ ของ ร.ร.พะเยาพิทยาคม แต่ภายหลังเกิดคลั่งไคล้ในกีฬาจักรยาน จึงตั้งใจฝึกฝน ประกอบกับ เป็นคนต่างจังหวัด ทำให้สะดวกแก่การฝึกซ้อม เพราะต่างจังหวัดไม่ค่อยมีรถราวิ่งบนถนนมากนัก ก็อาศัยการขี่จักรยานไปตามถนน และ จังหวัดพะเยาก็อยู่ในภาคเหนือ ถนนต่าง ๆ ก็ลัดเลาะไปตามหุบเขา ทำให้ได้ฝึกกำลังขาไปในตัว

 จนในที่สุดก็สามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งขันกีฬาแห่งชาติ และติดทีมชาติไทย ตามลำดับ พอจบ มัธยมปลายก็ย้ายมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ และทางกรมตำรวจได้ติดต่อให้เป็นนักกีฬาสังกัดทีมกรมตำรวจ พร้อม ๆ กับเล่นจักรยานให้ทีมชาติไทยด้วย ช่วงนั้นได้เข้าทำการฝึกซ้อม เก็บตัวที่เวลโลโดรม หัวหมาก โดยตอนเช้าต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อ วิ่งออกกำลัง หลังจากนั้นก็มีการทำกายบริหารต่าง ๆ พอตอนสายๆ จึงทำการฝึกซ้อมโดยขี่ไปตามถนนวันละประมาณ 100 กิโลเมตร และ ตอนบ่ายจึงทำการฝึกซ้อมในเวลโลโดรม การแข่งขันจักรยานแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทถนน กับประเภทลู่ ซึ่งตัวผมเอง จะถนัดใน การขี่ประเภทถนนมากกว่า เพราะมันดูท้าทายความสามารถ และต้องใช้ความอดทนสูงมาก ซึ่งผู้ขี่จะต้องมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา สูงมาก เพราะในการแข่งขันจะมีระยะทางมากกว่า 100 กิโลเมตร จึงต้องอาศัยการวิ่งในตอนเช้า เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อที่ขา และนอกจากนี้การวิ่งยังช่วยการทำงานของปอด ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบันนี้ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักจักรยานแล้ว แต่ก็ยังคงวิ่งออกกำลังอยู่เป็นประจำ โดยส่วนมากจะวิ่งในตอนเย็นที่สวนสุขภาพ โดยจะพาลูก ๆ ไปวิ่งเล่นออกกำลังด้วย หลังจากวิ่งแล้วก็จะยก weigh ด้วย เพราะสมัยที่เป็นนักกีฬาเคยวิ่งทุกวัน ถ้าหยุดออกกำลังจะรู้สึก ไม่คล่องตัว นอกจากช่วงไหนที่ไม่มีเวลาก็อาศัยการขี่จักรยานออกกำลังอยู่ที่บ้าน หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะครับ สุขภาพของเราจะแข็งแรง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อชีวิตครอบครัวและการทำงาน


คุณธีรภรณ์ อุ่นเรือน(โพธิ์พานิช)
อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ประเภทยิมนาสติก

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ ธีราภรณ์ อุ่นเรือน ( โพธิ์พานิช)

ชื่อเล่น อ๊อป

เกิด 13 กรกฏาคม 2509 ปัจจุบันอายุ 34 ปี

เป็นชาวจังหวัดกรุงเทพฯ

อาชีพปัจจุบัน GROUND HOSTESS บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)

การศึกษา ปรญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ประวัติทางด้านกีฬา

เริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่อายุได้ 10 ปี ตอนแรกๆ ก็เล่นแบดมินตัน ที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม หัวหมาก โชคดีที่คุณพ่อทำงานที่การกีฬา แห่งประเทศไทย และมีบ้านพักอยู่ติดกับสนามกีฬา จึงมีโอกาสได้คลุกคลีกับกีฬาตั้งแต่เด็ก ๆ บังเอิญวันหนึ่ง หลังจากเล่นแบดมินตัน เสร็จแล้วก็ไปแอบดูเค้าฝึกซ้อมยิมนาสติกกัน ก็เกิดอาการนึกสนุกขึ้นมา ก็เลยลองเปลี่ยนไปลองเล่นยิมนาสติคดูบ้าง หลังจากวันนั้น ก็ไม่ได้ไปห้องแบดมินตันอีกเลย เพราะติดใจกับการเล่นยิมนาสติคซะแล้ว

ประมาณปี 2520 ยิมนาสติกเพิ่งจะเข้ามาบูมในเมืองไทย เริ่มแรกของการฝึกซ้อมจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และท่าพื้นฐานทั่วไปของยิมนาสติก ตอนเช้าก็มีการวิ่งออกกำลัง เพื่อเพิ่มกำลังแก่กล้ามเนื้อที่ขา หลังจากฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ได้ประมาณ 3 ปี ก็ติดทีมชาติ หลังจากติดทีมชาติแล้ว การฝึกซ้อมที่หนักหน่วงก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งต้องอาศัยทั้งกำลังกาย และกำลังใจเป็นอย่างมาก ต้องไปเก็บตัว ที่หอพักนักกีฬาที่สนามกีฬาหัวหมาก ตอนเช้าต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 วิ่ง และวอร์มอัพ ถึงประมาณ 7 โมงเช้า การวิ่งในตอนเช้าสำหรับยิมนาสติก มีอยู่ 2 แบบ คือวิ่งเหยาะ ๆ วันละประมาณ 5 กิโลเมตร และอีกแบบคือ การวิ่งสปีดสลับกับวิ่งเหยาะ หรือ เรียกอีกอย่างว่า INTERVAL ซึ่ง การวิ่งในแบบที่ 2 นั้น เหนื่อยมาก เพราะต้องใช้กำลังมากกว่าแต่ช่วยให้กล้ามเนื้อขา และปอดแข็งแรงขึ้น

จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งมีการจัดการวิ่งมินิมาราธอนในการจัดฉลองการเปิดทางด่วนพิเศษ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร (ไม่แน่ใจ) โค้ชของเราจึงอยากลองให้นักกีฬาไปทดสอบความสามารถดูบ้าง ตอนแรก ๆ ก็สบายอยู่หรอก เพราะว่าวิ่งทุกวันอยู่แล้ว แต่ปกติจะวิ่งวันละ 5 กิโลเมตร แต่มาแข่งคราวนี้ระยะทางมากขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ก็เดินบ้างวิ่งบ้าง จนในที่สุดก็ถึงเส้นชัยจนได้ ไม่เสียแรงนะ ได้ถ้วยรางวัลในอันดับที่ 2 ของประเภทเยาวชนหญิงมาด้วย

ถึงแม้ปัจจุบันจะเลิกราจากวงการยิมนาสติกมานานแล้ว แต่เวลา 10 ปี ที่ให้ไปกับยิมนาสติก กลับได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า นอกจากเหรียญทองและโล่รางวัลที่ได้รับแล้ว กีฬายังสอนให้รู้จักอดทน อดกลั้น สอนให้รู้ว่าไม่มีสิ่งไหนที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราใช้ความพยายาม อย่างสูงสุด นอกจากนั้นการเล่นกีฬาทำให้เรามีบุคคลิกภาพที่ดี มีความมั่นใจในตนเอง ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน และ หน้าที่การงาน ทำให้เราเป็นที่ยอมรับในสังคมได้ง่ายขึ้น และสอนให้เราแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะมีปัญหาใด ๆ ย่างกรายเข้ามาในชีวิต ก็สามารถ มีกำลังใจฝ่าฟันอุปสรรคนั้นได้ เพราะเราคิดเสมอว่า 10 ปี ที่หนักหน่วงนั้น เรายังผ่านมาได้ แล้วอุปสรรคอื่น ๆ ทำไมจะผ่านไม่ได้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ น่าจะลองออกกำลังกายกันบ้างนะคะ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเล่นให้ติดทีมชาติ แต่เพื่อสุขภาพของตัวเราเองต่างหาก

 

01.JPG (22661 bytes)02.JPG (28489 bytes)

ถ่ายกับลูกๆ วัยกำลังน่ารัก น้องมินท์ 4 ขวบ และน้องเม่น 2 ขวบกว่า

03.JPG (17334 bytes) 
ลีลาขณะซ้อม
04.JPG (53114 bytes) 
มาดเท่ มั้ยครับ
05.jpg (17769 bytes)ธีราภรณ์ โพธิ์พานิช กับ 5 เหรียญ( 3เหรียญทอง 
 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง )
06.JPG (29829 bytes) ธีราภรณ์ โพธิ์พานิช (อ๊อป อายุ 15 ปี )และ น้องชาย ด.ช. ธีรัช โพธิ์พานิช (เอ็กซ์ อายุ 13 ปี) กับเหรียญ ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่กรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์