% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_first_run_by_prinya.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %>
ปริญญา
ศุภศรี:
รองประธานชมรมวิ่งThaiRunning
ประสบการณ์วิ่งแข่งครั้งแรกของผมไม่ค่อยพิสดารมากนัก หนักไปทาง โรแมนติค หวานแหววสม กับบุคลิก
ตอนนั้นผมยังคงความหนุ่มน้อยมาก แม้ว่าจะไม่หล่อเหมือนกับวิลลี่ แมคอินทอช แต่ก็ ไม่ด้อยกว่า ดัสติน ฮอฟแมน (ในตอนนั้น) เรื่องเสเพลก็ไม่น้อยหน้าใคร รวมไปถึงเรื่องงาน การพนันต่างๆ ด้วย การถือมิจฉาทิฐิเป็นใหญ่ กีฬาก็ไม่ค่อยเล่น ขาก็ไม่สมบูรณ์ 100% เพราะเคยหักมาก่อน ทำให้ขาขวาสั้นกว่าขาซ้ายเล็กน้อย ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง
ผมมีแฟนคนหนึ่งเป็นคนนิสัยดีมาก ใจเย็น อดทน ให้กำลังใจผมในปัญหาต่างๆ หรือ เรื่องงาน มาโดยตลอด ผมเองตื้นตันใจมากและคิดจะทำอะไรเป็นการตอบแทน ให้เธอสักอย่าง เพื่อแสดงความอดทน ลำบาก มุ่งมั่น และตั้งใจจริงอย่างแรงกล้าจากผมก็ยังไม่ได้ทำสักอย่าง
มาถึงฤดูหนาว 2531 ผมมีธุระต้องไปต่างจังหวัดเช้ามืด แม้ว่าจะขับรถเร็วแต่ ผมทันสังเกต เห็นคนขาพิการกำลังเข็นรถเก็บขยะอย่างยากลำบากตรงไหล่ทาง พลันผมก็ ใจสั่นสะท้านด้วย ความรู้สึกหลายอย่างประดังกันเข้ามา มันสับสนระหว่างความรู้สึกตื้นตัน สงสารและนับถือการสู้ชีวิต ของเขา พร้อม ๆ กับบรรยากาศที่สงบเงียบ ในตอนเช้า ความคิดอย่างหนึ่งก็ทะลุเข้ามาในสมองผม เหมือนกับกระชากให้ผมตื่นขึ้นอย่างเฉียบพลัน ผมเข้าใจได้ในเดี๋ยวนั้นเลย ว่าผมควรจะทำอะไรกับ ความรู้สึกอันรุนแรงที่มีตอนนั้น และผมควรจะทำอะไรตอบแทนที่เป็นสิ่งสูงค่าของผมให้กับคน ที่ผมรัก มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการวิ่ง วิ่งเพื่อชดเชยความรู้สึกของผู้พิการ วิ่งเพื่อรางวัล อันเป็นข้อพิสูจน์
ผมรู้ข่าวการวิ่งลอยฟ้าสะพานแขวนในระยะนั้นจึงไปสมัครวิ่ง แม้ว่าจะมี แรงบันดาลใจ อย่างเหลือล้น แต่ผมก็ยังมีสติสัมปชัญญะมากพอที่จะสมัครแค่ 1O K. การซ้อม ของผมเป็นไป อย่างกระท่อนกระแท่น ด้วยความไม่รู้ในพื้นฐานทุกอย่าง ด้วยความอดทน เบื่อหน่าย และเจ็บปวด ซึ่งเริ่มจะเป็นความจริงที่ผมต้องรับรู้ ในที่สุด วันแข่งก็มาถึง ประสบการณ์วิ่งครั้งแรก มันโดดเดี่ยว และเจ็บปวด การซ้อมที่ไม่สมบูรณ์ไม่อาจมาสนับสนุนกำลังใจได้มากนัก นั่นคือความจริง
ผมหยุดเดินทุกครั้งที่ขึ้นลง
สะพาน
มันช่างสูงชันเหลือเกินในความรู้สึก
ผมฝืนวิ่งไปเดินไป กม.แล้ว กม.เล่า
พยายามพึ่งน้ำตามจุดต่าง ๆ
เพราะกลัวใจตัวเองจะหยุด
ผมไม่ยอมมองไป ข้างหลัง
เพราะกลัวว่าผมจะอยู่รั้งท้าย
ผมก้มหน้าวิ่งปะปนไปกับผู้คนหลายหลาก
ความฮึกเหิม
ที่มีอยู่บ้างในช่วงแรกๆ
ค่อยๆ หดหายไป ผมมาปลุกปลอบใจ
ตัวเองอีกที ที่กม. 8
โซซัดโซเซ วิ่งช้า ๆ
ตบท้ายด้วยการขึ้นสะพานแล้วเข้าเส้นชัย
ผมโล่งอกสุดๆ
ในภารกิจที่ไม่ค่อยมั่นใจนักได้สำเร็จลง
.....ผมวิ่งได้ 10
K. ตาม
ต้องการในเวลา 57
นาที
จบตอน 1
ชะตาของผมยังไม่หมดกรรมเพียงเท่านั้น ความรู้สึกดีๆ เมื่อวิ่งเข้าถึงเส้นชัยกลับกลาย เป็นความ แค้นเคือง ผมไม่สามารถทำสิ่งที่ผมหวังไว้เต็มเปี่ยมได้ เพราะในปีนั้น ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ทั้งประกาศนียบัตรและเหรียญ ถูกกลุ้มรุมแย่งชิงไปก่อนหน้าผม มันน่าละอายและอดสู ที่สุด ผม เซ็งมากจึงกลับบ้านทันทีและคอเปล่า ผมก็เลยตั้ง ความหวังอีกครั้ง เอาให้เหนือกว่าความรู้สึกเสีย อารมณ์ในครั้งนั้น.......... คราวนี้ผมมองไปถึงฟ้า พร้อมกับตั้งคำถามกับตัวเองว่าอะไรวะที่ มันโหดที่สุดในการวิ่ง ก็แน่ละ มาราธอนไงหล่ะ (ตอนนั้นไตรกีฬายังไม่ฮิต) แล้วก็ต้องตอบต้วเอง ว่าเอามันสักครั้งซิวะ ให้มันรู้หมู่หรือจ่าไปเลย
งานผมไม่เอื้อในการเล่นกีฬา แถมยังเป็นอุปสรรคมากผมต้องทำงานดึกหรือเช้าเป็นประจำ ทำงานต่างจังหวัด สังคมมากกับชาวต่างประเทศ และเจ้านาย การซ้อมเป็น สิ่งกดดันสำหรับผม สูตรวิ่ง ลับไม่ลับผมไม่สามารถทำได้ทั้งสิ้น ผมจึงต้องซ้อมโดยสูตร 30/12 (คือตั้งใจวิ่งให้ได้เพียง 30 กม. เท่านั้น นอกนั้นเป็นลิขิตฟ้า)........
ผมเข้าวิ่งมาราธอน 42 K. ในปีต่อมา 2532 ด้วยเวลา 4 ชม. 45 นาที (30กม./3 ชม. + 12.2 กม./ 1 ชม. 45 นาที)
..........วินาทีที่รับเหรียญ ผมก็คิดว่าโลกทั้งโลกมันอยู่ในมือผมแล้ว................
ผมขับรถไปหาแฟนผมที่ต่างจังหวัดทันที วินาทีที่ผมยื่นเหรียญให้เธอ เธอมองตาผม แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไรเลย แม้ว่าเธอจะดูไม่ซาบซึ้งเท่ากับความคาดหวัง อันรุนแรงจากผม แต่เธอก็น้ำตาคลอ ........โลกทั้งโลกผมยกไปให้เธอแล้ว มันสุขใจ ปลื้มและสะใจ เกือบ 13 เดือนที่ผมรอคอย ผมได้ตอบแทนน้ำใจของแฟนผมแล้ว
จบตอน 2
ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.44<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "
" Next Response.Write Display %>