เอ็นร้อยหวาย-พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ
คำถามจาก คุณเสฏฐวุฒิ ก้อนใส ถามมาว่า
"ผมมีปัญหาอยากจะขอคำปรึกษาคือ ผมเป็นนักวิ่งของมหาวิทยาลัย
และเป็นตัวแทนจังหวัด วิ่งระยะ 5,000 เมตร 10,000 เมตร
บางครั้งก็วิ่งมินิมาราธอน แล้วมีอาการบาดเจ็บบริเวณส้นเท้า
ส่วนที่เป็นเอ็นร้อยหวาย หลังจากวิ่งมินิมาราธอนประมาณเดือนมีนาคม
2548 ผมหยุดวิ่งประมาณ 2 เดือน อาการก็ไม่ดีขึ้น
จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอได้ทำการรักษาด้วยวิธีการฉีดยา
หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
จนสามารถซ้อมวิ่งได้ตามปกติ ต่อมาประมาณ 4
เดือนรู้สึกเจ็บบริเวณส้นเท้าอีก
และเป็นช่วงใกล้แข่งกีฬามหาวิทยาลัย ผมจึงกลับไปฉีดยาอีกครั้ง
อาการบาดเจ็บก็หายมาโดยตลอด
"จนมาถึงเดือนเมษายน 2549 อาการบาดเจ็บก็กลับมาอีก
แต่ผมไม่อยากรักษาด้วยการฉีดยาอีก
เพราะมีอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยบอกว่ายาที่ฉีดมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
ถ้าฉีดบ่อยจะเป็นอันตราย ทำให้เอ็นเปื่อยและขาดได้
ตอนนี้ผมทุกข์ใจมากๆ ไม่รู้จะรักษาอย่างไร ผมหยุดวิ่งมา 1
เดือนเต็มๆ แล้ว ไปทำกายภาพบำบัด แล้วเวทเทรนนิ่ง กินยา
อาการก็ยังไม่หายจะเจ็บเอ็นร้อยหวายมากในช่วงตอนเช้า
หลังจากที่ฝึกซ้อมตอนเย็น
แต่เวลายืดกล้ามเนื้อและเอ็นร้อยหวายจะไม่เกิดอาการเจ็บ
จะเจ็บเวลาวิ่ง ผมจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บด้วยวีธีใด
นอกจากการฉีดยา และผมจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรในการรักษา
รบกวนอาจารย์หมอช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ"
ผมขอเชิญ อจ.นพ.พิสิฏฐ์ เลิศวานิช แพทย์ประจำสาขาเวชศาสตร์การกีฬา
ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตอบดังนี้ครับ
จากคำถามของคุณเสฏฐวุฒิ ก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจที่พบได้บ่อยคือ
ภาวะ เอ็นร้อยหวายอักเสบ ร่วมกับพังผืดฝ่าเท้าอักเสบ
(บางท่านจะเรียกว่า "รองช้ำ")
จากประวัติที่เป็นนักวิ่งระยะไกลถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ
ต่อทั้งสองภาวะซึ่งเป็นลักษณะการบาดเจ็บจากการใช้งานมากเกินไป
(overuse injury)
ในส่วนของการรักษาซึ่งได้ทำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา
หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อก็เป็นสิ่งที่เหมาะสมอยู่แล้ว
การฉีดยาสเตียรอยด์ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาพังผืดฝ่าเท้าอักเสบ
แต่สำหรับเอ็นร้อยหวายอักเสบนั้น
ไม่ควรรักษาด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์
เพราะจะทำให้เส้นเอ็นเสียความแข็งแรงและอาจฉีกขาดได้
การรักษาการบาดเจ็บจากการใช้งานมาก นอกเหนือจากการใช้ยาแล้ว
ยังต้องเสริมด้วยการใส่ใจในส่วนประกอบอื่นซึ่งอาจละเลยไป เช่น
ควรเลือกรองเท้าให้มีพื้นที่นุ่มเท้า รับแรงกระแทกได้ดี
อาจเสริมพื้นรองเท้าบริเวณส้นเท้าเพื่อลดความตึงของเอ็นร้อยหวาย
ในรายที่ฝ่าเท้าแบนอาจเสริมอุ้งเท้าด้วย
สำหรับพื้นลู่วิ่งนั้น ควรหลีกเลี่ยงการวิ่งระยะไกลบนพื้นคอนกรีต
เพราะจะมีแรงกระแทกสูงกว่าพื้นยางมะตอยหรือลู่วิ่งแบบยางสังเคราะห์
ในนักกีฬาการรักษาความฟิตก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
เพราะหากไม่ได้ใช้งานนานๆ ร่างกายก็จะมีความฟิตน้อยลง
ในระหว่างการรักษาอาจใช้การออกกำลังกายซึ่งไม่มีแรงกระแทกต่อฝ่าเท้าแทน
เช่น การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน เป็นต้น
เพื่อรักษาความฟิตของร่างกาย
โดยไม่กระทบต่อส่วนที่ได้รับการบาดเจ็บ
หวังว่าคงพอเข้าใจนะครับ
ถ้ามีข้อสงสัยหรือคำถามประการใดเกี่ยวกับการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
กรุณาส่งไปที่สาขาเวชศาสตร์การกีฬา
ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ฯ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ Email address sisportsmed@hotmail.com
สวัสดีครับ
หมายเหตุจาก นสพ.มติชน
คอลัมน์ หมอสนาม
นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ และคณะ
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2549
ปีที่ 29 ฉบับที่ 10391 |
|