เอ็กเซอร์ไซส์สลายนิ่ว

 

 

 

รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นมีคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ ยิ่งนับวันความดีของการออกกำลังก็ยิ่งปรากฎเป็นที่ประจักษ์มากขึ้น อย่างเช่นรายงานผลการวิจัยของ ดร. ไมเคิล ลิทซ์แมนน์ แห่ง Harvard School of Public Health ในวารสารแพทย์ประเทศอังกฤษ ที่ระบุว่าการออกกำลังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากปริมาณคอเลสเตอรอลที่มีมากเกินไปในน้ำดี จนจับตัวรวมกันเป็นก้อนนิ่ว ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้และอาเจียน โรคนี้เกิดกับผู้หญิงมากกว่าถึง 2 ใน 3

ดร.ลิทซ์แมนน์และคณะสำรวจวิถีการดำเนินชีวิตของผู้หญิงอายุระหว่าง 40 – 65 ปี ซึ่งไม่เคยมีประวัติความเจ็บป่วยเกี่ยวโรคถุงน้ำดี จำนวน 60,290 คน ตั้งแต่ปี 1986

พบว่า ผู้หญิงที่ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอประมาณวันละ 30 นาที จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีถึง 31 เปอร์เซ็นต์ รายงานนี้ตอกย้ำผลการศึกษาที่พบเช่นเดียวกันในผู้ชาย

ขณะที่ผู้หญิงที่หมดเวลาไปกับการนั่งทำงานตั้งแต่ 41-60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีโอกาสป่วยจนต้องผ่าตัดถุงน้ำดีมากกว่าคนที่นั่งน้อยหน่อยถึง 42 เปอร์เซ็นต์

ส่วนคนที่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ มากกว่า 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีโอกาสต้องผ่าตัดถุงน้ำดีมากกว่าคนที่หมั่นบริหารร่างกายหรือเดินยืนเยอะ ๆ ถึง 132 เท่า

ก็แน่ล่ะ เพราะการออกกำลังบริหารร่างกายจะช่วยลดคอเลสเตอรอลให้น้อยลง ซึ่งเป็นการตัดปัจจัยสำคัญของการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีนั่นเอง

เป็นเหตุผลอีกข้อที่พอจะทำให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลังบ้างได้ไหม

 

ทำอย่างไรไม่เบื่อออกกำลัง

ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าการออกกำลังมีประโยชน์อเนกอนันต์ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยได้ออกกำลัง หรือแม้ว่าได้ออกกำลัง แต่ก็มักไม่ทำอย่าต่อเนื่อง เอ๊ะ ! ทำไม

มากกว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ใส่ใจสุขภาพ มักล้มเลิกการออกกำลังกายภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปี แม้จะเห็นผลว่าการออกกำลังกายดีอย่างไร โดยเหตุผลก็เพราะ “ความเบื่อหน่าย” และคนส่วนใหญ่เบื่อเพราะการออกกำลังขัดต่อกิจวัตรประจำวันของเขา

สำคัญที่ว่า เมื่อเริ่มต้นออกกำลัง คุณควรตั้งเป้าหมายให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ที่จะสามารถทำให้บรรลุผลสำเร็จได้ (ไม่ยากเกินฝัน) ไม่อย่างนั้นคุณจะท้อแท้เสียก่อนน่ะ

ระยะแรก ๆ ของการออกกำลัง คนส่วนใหญ่มักใจร้อน อยากเห็นผลเร็ว ๆ จึงเอาแต่วิ่งให้ได้ระยะทางไกล ๆ หรือว่ายน้ำทีละหลาย ๆ รอบอย่างหักโหมในช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 พอเวลาผ่ายไป คุณก็จะเริ่มเบื่อ เพราะฝืนออกกำลังด้วยแรงใจแบบไฟไหม้ฟางเท่านั้นเอง

สิ่งที่คุณควรคำนึงคือ ระยะเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย (มากกว่าระยะทาง) เพื่อให้ร่างกายออกกำลังได้ถึงระยะพีค เริ่มจากออกกำลังวันละ 15-30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มีรายงานว่า ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มักจะยังคงออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง มากกว่าคนที่โหมฟิตเกินตัวในระยะแรก ๆ

ทดสอบตัวคุณในการออกกำลังกายว่า ศักยภาพของร่างกายก้าวหน้าขึ้นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เช่น เคยวิ่งได้ 10 นาที ก็เหนื่อยหอบ ตอนนี้วิ่งได้ 15 นาทีอย่างสบาย ๆ ยิ่งเห็นว่าร่างกายมีพัฒนาการอย่างนี้ จะทำให้คุณยิ่งมีกำลังใจออกกำลังต่อไปมากขึ้น

การออกกำลังร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว หรือออกกำลังเป็นกลุ่ม (เช่น กลุ่มรำกระบอง) จะช่วยเพิ่มความสนุกสนาน หรืออาจจัดการแข่งขันแบบสมัครเล่นในระหว่างกลุ่ม เพื่อกระตุ้นให้การออกกำลังคึกคักขึ้นก็ได้

แล้วอย่างนี้การออกกำลังจะน่าเบื่อได้อย่างไรล่ะ