ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่ 12 พ.ย 49
ความยากและง่ายของมาราธอน
โดย กฤตย์ ทองคง
มาราธอนน่ะ ใครๆก็วิ่งได้
แต่จะวิ่งให้ดีนั้น มันไม่ง่ายเลย
กล่าวไปอย่างนี้ บรรดาขามาราธอนทั้งหลายอาจชำเลืองมายังผู้เขียนอย่างคลางแคลงใจว่า
พูดอย่างนี้ ตกลงเธอว่า มันง่ายหรือยากกันแน่
ใช่ครับ..........ผู้เขียนยืนยันว่าใครๆก็วิ่งมาราธอนกันได้ทั้งนั้น แทบจะไม่มียกเว้นเลย เพียงแต่จะเป็นไปได้ในสภาพไหนเท่านั้นเอง อย่างสภาพที่สดชื่น หรือกระปรกกระเปรี้ย หรือกว่านั้น อย่างปางตายจำไม่ลืม แต่รับรองไปได้ทั้งนั้น
ขอย้อนไปสมัยกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แตกใหม่ๆ เมื่อฝ่ายเขมรแดงมีชัย มีนโยบายโยกย้ายประชากรเมืองออกไปชนบทให้หมดสิ้นเป็นเมืองร้างอย่างกระทันหัน ตามนโยบายล้างบางของผู้นำเผด็จการ ที่มีคำสั่งให้ทุกคนไม่มีเว้น มุ่งหน้าออกไปชนบทด้วยเท้าเป็นแถวยาวเหยียด ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ , คนท้อง , ผู้ป่วย หรือ เด็กอ่อน ใครไปไม่ไหวหรือไม่ยอมไป ก็ประหารชีวิตด้วยการใช้โคนจอบฟาดศีรษะ (ไม่เปลืองกระสุน)
ผู้คนมีแรงจูงใจมหาศาลจากความปรารถนาอยู่รอด ที่จำต้องเคลื่อนย้ายร่างกายเป็นระยะทางร้อยๆกิโลภายในวันเดียวหรือสองสามวันติดกัน อย่างปราศจากเหรียญ ปราศจากถ้วย และปราศจากเตรียมตัวซ้อมมาก่อน อย่างไม่ต้องเขียนใบสมัคร ที่มีรางวัลอยู่เพียงอย่างเดียวคือ ไว้ชีวิต
แล้วก็พบว่า มวลชนมหาศาล เรือนล้าน ไม่เพียงแต่เดินอพยพไปได้เป็นร้อยๆโล แต่ไปในสภาพถือข้าวของพะรุงพะรัง อุ้มลูกจูงหลาน เข็นรถลากจูงทรัพย์สมบัติชิ้นที่คิดว่าจำเป็นมากที่สุดไปด้วย ไม่ใช่ไปตัวเปล่า
ที่ตายกันมาก เพราะถูกเขมรแดงปลิดชีพ ตายเพราะป่วยไข้ไม่มีการรักษา ตายเพราะความหวาดระแวง ตายเพราะต่อต้านคำสั่ง และตายเพราะมีความเชื่อไม่เหมือนมัน ตายเพราะไม่ยอมแบ่งทรัพย์ให้เขมรแดง แต่ไม่พบว่ามีใครตายเพราะระยะทางในตัวของมันเองเลย
เพราะอย่างนี้ไงครับ ผู้เขียนถึงได้กล่าวว่า ระยะทางที่ยาวไกลกะอีแค่สี่สิบสองโล ใครก็วิ่งได้ทั้งนั้น (เคลื่อนย้ายร่างกาย) แต่จะเป็นไปในลักษณะไหน เป็นไปกับความสดแข็งแรง หรืออย่างเจ็บล้าอ่อนเปลี้ยต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละคน
กลับมาดูสถานการณ์ในสนามมาราธอน นักวิ่งมาราธอนที่เราเห็นเป็นพันเป็นหมื่นนั้น ประเมินกันว่า ที่ซ้อมมาดีมีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น แต่ที่ท่วมท้นก็คือ ถ้าไม่ Undertrain ก็ Overtrain อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เขียนอย่างนี้ เพราะเมื่อเราไปถามนักวิ่งที่เข้าเส้นสตาร์ทให้เขาประเมินแผนซ้อมของตัวเองที่ผ่านมาว่า คุณซ้อมมาดีหรือไม่ การซ้อมที่ผ่านมามีความสมบูรณ์หรือขาดตกบกพร่อง เกือบทั้งหมดกล่าวว่า เขายังทำได้ไม่สมบูรณ์ดีนัก และน่าจะซ้อมดีกว่านี้
แต่จะเชื่อกันหรือไม่ว่า ปริมาณนักวิ่ง DNF. (Did not finish) วิ่งไม่ได้เหรียญมีน้อยมากจนไม่อาจจัดเป็นค่าสถิติที่เทียบเคียงกับผู้วิ่งทั้งหมดได้เลย ไปได้ทั้งนั้น ทั้งๆที่ซ้อมไม่เอาอ่าว
ในพวก DNF. ก็จะประกอบด้วยอุบัติเหตุเสียบ้าง , มีอันเป็นไปเพราะต้นเหตุจากพยาธิสภาพของแต่ละคนบ้างเกือบทั้งนั้น ไม่ใช่ Beginner เลยพวกขาใหม่เอี่ยมล้วนไปถึงกันหมด
พวกที่เพิ่งลงวิ่งมาราธอนใหม่เอี่ยมนี้ อาจตั้งเป้าหมายว่า ขอแค่ถึง จริง เรื่องของเรื่องคือ มันน่าตื่นเต้นตรงที่ ความสามารถจริงๆกับความคิดที่ว่าตัวเองสามารถนั้นมันต่างกันอย่างมากมาย ต่อเมื่อผ่านการเปิดบริสุทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว ครั้งต่อไป แม้จะกล่าวกับคนรอบข้างว่า ขอแค่ถึงอีกเหมือนเดิม แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าในใจลึกๆมันจะมีความสุขมากขนาดไหนหนอหากตัวเองทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเก่า ความคาดหวังนี้ เกิด , เป็นไป และพัฒนาอย่างไม่รู้ตัว และที่สำคัญ ไม่กล้าที่จะยอมสารภาพกันออกมาตรงๆว่า ขอเพียงดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเวลารวมที่ลดลง หรือ ด้วยร่างกายรู้สึกบอบช้ำน้อยลงกว่าก็ตาม คิดฝันแล้วมันจั๊กกะจี้
ความรู้สึกและความต้องการที่คลี่คลายมาในระยะหลังนี้เอง มันคือประโยคที่ว่า แต่จะวิ่งให้ดีนั้น มันไม่ง่ายเลย
ในสนามที่สองและสนามถัดไป เขาก็ยังอาจไปได้ดีและดีขึ้นในทุกลักษณะ เป็นเพราะเจ้าตัวเรียนรู้จัดการจากประสบการณ์เพียงเล็กน้อยนั้น ยิ่งประกอบเข้ากับลักษณะไม่ขาดซ้อม แม้จะไม่ได้เพิ่มเติมการฝึกฝนอะไรเลย คนเราก็ยังอาจได้ผลลัพธ์ดีขึ้นๆอยู่เรื่อยๆได้
แต่ความสัมฤทธิ์นี้ มันจะมีเพดานอยู่ระดับหนึ่งของแต่ละคน ที่ธรรมชาติเอื้อให้ เป็นโปรโมชั่นแถมมาจากการเป็นลูกค้ามาราธอน คล้ายกับเทวดาหลอกให้ดีใจกับความสำเร็จอยู่สักระยะแค่นั้น ครั้งต่อๆไปถ้าจะได้ผลที่ดีกว่าเก่าเหมือนอย่างเดิมคงต้อง เบ่ง กำลังงานมากขึ้น บางที ถ้าไม่เบ่ง ประสิทธิภาพอาจตกกว่าเก่าก็เป็นได้ ซึ่งจะมีผลทำให้เหนื่อยมากขึ้น ล้าลงมากกว่าเก่า
ความเหนื่อยและความล้าที่แลกเปลี่ยนกับเวลารวมที่ลดลงนั้น ตัวของความเหนื่อยล้ามันจะเท่ากับไปลดทอนแต้มคะแนนของการประเมินผลงานว่า ดีขึ้น ให้ลดลงในอีกด้านหนึ่ง อย่างอัตโนมัติ
ครับนี่แหละที่ว่า มันไม่ง่าย แล้ว
จำต้องมีเครื่องมืออะไรบางอย่างเข้ามาช่วย เครื่องมือใหม่ที่แต่เดิมไม่มีอยู่ และต้องไปหามาใหม่นี้คือ แผนฝึก ไงครับ
หน้าตาของเครื่องมือนี้จะเป็นอย่างไรย่อมไม่เหมือนกันในแต่ละคนอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายวิ่งมาราธอนเพื่ออะไร เหมือนกับขึ้นชื่อว่า รถยนต์ แต่ยังแยกย่อยไปได้ตั้งแต่ รถเก๋งหรู , รถปิ๊กอัพขนของ , รถแข่งเอารางวัล , กระทั่งแทรคเตอร์ไถดิน ที่เซลล์แมนขายรถจะถามคุณว่า คุณจะเอามันไปทำอะไรหรือครับ
รายที่ล่าจำนวนสนามมาราธอน หรือล่าปริมาณกิโลเมตร สะสมในพอร์ตโฟลิโอเกียรติประวัติ ดูเผินๆจะเป็นคนละอย่างกับนักวิ่งแข่งความเร็ว แต่ถ้าในบริบทที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ ผู้เขียนประเมินไม่ได้แตกต่างกันเท่าใดหรอกครับ ตรงที่มันต้องการแผนฝึกหรือวิธีปฏิบัติเตรียมตัวที่จำเพาะเจาะจงเหมือนกันทั้งนั้น
จะให้พี่ปั้นไปแข่งความเร็ว ก็เหมือนกับ เอารถปิ๊กอัพดีเซลไปลงฟอร์มูล่าวัน หรือกลับกัน เอาเฟอร์รารี่ไปบรรทุกมะพร้าวไปส่งชายแดน มันเป็นไปไม่ได้
แผนฝึกเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการวิ่งปริมาณระยะทางมากๆ ย่อมแตกต่างจากแผนฝึกเตรียมตัวเพื่อถ้วยรางวัลบนโพเดี้ยมแน่นอน
กำลังจะบอกว่า แผนฝึกแต่ละคนจะต้องแตกต่างกัน อันเป็นไปตามเป้าหมายการวิ่งของตัวเอง ที่ยังมีย่อยลงไปได้อีก เป็นอายุ เป็นเพศ เป็นระดับความฟิต และรูปแบบชีวกลของแต่ละร่างกาย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด เจ้าตัวย่อมจะต้องลงแรงพากเพียร , เกาะติดสม่ำเสมอ , ยืดเยื้อยาวนาน , ใส่ใจสังเกตอาการด้วยความตั้งใจทั้งสิ้น แผนฝึกที่หมูๆ มันจะหล่อหลอมตัวเราให้กลายเป็นหมูตัวจริงในสายตานักวิ่งอื่น
ถ้าเช่นนั้น จะให้กล่าวว่า แผนฝึกที่ดี คือแผนฝึกที่ยาก , ที่หนัก ก็ยังกล่าวได้ไม่เต็มปาก ลักษณะที่ยากและหนัก มันต้องถูกเรียกเสียใหม่ว่า แผนฝึกที่เหมาะสม ต่างหาก
ที่ว่า เหมาะสม เหมาะสมอย่างไร?
ก็เหมาะสมกับความเป็นตัวของเราเอง เข้มอ่อนกำลังพอดี ที่ผ่านการจัดหาทยอยเพิ่มความเข้มข้นขึ้นทีละน้อยในคาบระยะเวลาที่ยาวนานด้วยความสม่ำเสมอ ในความกำหนดควบคุมของจิตใจที่พากเพียรไม่ท้อถอย ชนิดที่กาะติดอย่างนิ่มนวล
ถ้าเรามองว่า คำบรรยายในลักษณะที่ขีดเส้นใต้ข้างบนนี้ เป็นความยากล่ะก็ เราก็ต้องเรียกว่า ยาก ยากเพราะมันไม่ง่าย
สำหรับบางคนยากไม่ว่า เข้มข้นแค่ไหนสู้เผชิญได้ไม่ยั่น แต่ความที่ยืดเยื้อยาวนาน มันทำไม่ค่อยได้ นี่แหละเรื่องมันอยู่ตรงนี้!!!
ใช่แล้วครับ คนเรารู้สึกยากง่ายต่างกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ ขนาดเรื่องประเมินคุณค่าความดี เรายังให้ค่าต่างกันราวกับฟ้าดิน
ดังนั้น จะวิ่งมาราธอนให้มันดีขึ้น มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่ายๆเลย เหตุนี้มาราธอนจึงสามารถเป็นเครื่องทดสอบคนได้ตลอดชีวิตก็เพราะเหตุที่มันประมาทไม่ได้ มาราธอนฆ่าคนที่ประมาทมาเสียนักแล้ว โดยเฉพาะขาเก่า ที่มั่นใจในความเก๋าของตัวเอง ประเภทเห็นมันเป็นหมูในอวยและของตาย พวกนี้ล้นเกิน ระวังให้จงหนัก ต่อให้นายวิ่งมานานแล้วก็เถอะ ต่อให้มีอายุราชการเป็นพี่เอื้อยขนาดไหน ลองประมาทดูซิ เป็นอันเสร็จทุกราย
อย่างนี้ไงครับที่ผู้เขียนกล่าว
มาราธอนน่ะ ใครๆก็วิ่งได้
แต่จะวิ่งให้ดี ไม่ง่ายแน่นอน
09:00 น.
9 พฤศจิกายน 2549