<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_dehydration.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> DEHYDRATION กับการวิ่งครั้งแรกในกรุงเทพฯ

 

 

DEHYDRATION 
กับการวิ่งครั้งแรกในกรุงเทพฯ

 

โดย...Jack ระยอง

 

ปกติผมเป็นนักวิ่งบ้านนอกประเภทวิ่งเพื่อสุขภาพ , ซ้อมออกกำลังกายเป็นประจำ และ เริ่มวิ่งแข่งขันตามรายการต่างๆ เมื่อปี 42 ด้วยสถิติ 45-50 นาที จนกระทั่งเมื่อปี 43 ได้มีโอกาสเข้ามาวิ่งในกรุงเทพ เป็นครั้งแรก ในรายการวิ่ง UN 10 K.ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ผมต้องจดจำไปอีกนาน

เช้าวันแข่งขันผมนั่งตุ๊กตุ๊กจากที่พักไปคนเดียวพร้อมเป้คู่ชีพ ผมฝึกซ้อมมาอย่างดี และตั้งใจจะทำเวลาให้ดีกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อเริ่ม start ผมจึง ออกวิ่งด้วย speed ที่เร็วกว่าปกติ

จนกระทั่งวิ่งมาถึง ก.ม. ที่ 7-8 ได้มีนักวิ่งท่านหนึ่งวิ่งมาจากไหนไม่ทราบ วิ่งมาประกบผมแล้วขอป้ายหมายเลขที่หน้าอกผมโดยอ้างเหตุผลต่างๆซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว จำได้ว่าผมรีบถอดป้ายหมายเลขที่หน้าอกให้เพราะกลัวเสียสถิติเวลาแล้วรีบวิ่งต่อไป

แล้วก็ได้เรื่อง พอวิ่งไปสักพัก ทำไมถึงเหลือผมคนเดียว

 จึงสงสัยว่าหลง แต่นึกในใจว่าแล้วจะหลงได้อย่างไร เพราะ วิ่งตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ชี้ บอกตลอด

 ในที่สุดดูแล้วหลงแน่จึงถามทางแม่ค้าข้างทางแล้วรีบวิ่งกลับเส้นทางโดยเร็วที่สุด และเมื่อวิ่งไปถึง สี่แแยกหนึ่งซึ่งตัดกับเส้นทางวิ่ง พบนักวิ่งจำนวนมากกำลังวิ่งอยู่ จึงหยุดสอบถาม เจ้าหน้าที่การแข่งขันว่าจุดดังกล่าวอยู่ ก.ม.ที่เท่าใด

 ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่การแข่งขันไม่ยอมให้ผมเข้าเส้นทางเนื่องจากไม่มีเบอร์ที่หน้าอก และได้ทราบจากการพูดคุยทางวิทยุของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวว่าผมได้ถูกกันให้ออกนอกเส้นทางก่อนหน้านี้ โดยวิธีการชี้ให้ผมวิ่งเลี้ยวออกนอกเส้นทาง ด้วยเหตุผลเดียวกัน (ไม่มีเบอร์ที่หน้าอก)

 ระหว่างที่หยุดวิ่งเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวนั้น เหงื่อของผมได้ทะลักออกมาจำนวนมาก เนื่องจากวิ่งมาด้วยความเร็วและะหยุดวิ่งกระทันหัน หลังจากคุยได้สักพัก ขาเริ่มเเข็งเป็นตะคริว ลองขยับเดินดูยังไม่ค่อยไหวเลย

สุดท้ายผมจึงขอให้เจ้าหน้าที่เรียกรถมารับผมกลับไปยังจุด start เมื่อมาถึงจุดstart หิวน้ำมากเดินไปพบ counter ของ iced tea เมื่อดื่มไป 1แก้ว รู้สึกพะอืดพะอมในรสชาด จนอยากอาเจียร และนึกขึ้นได้ว่าคนที่ขอเบอร์วิ่งผมอาจประสงค์ร้ายต้องการของที่ผมฝากไว้ที่จุดstart

 ผมจึงรีบประคองตัวไปยังจุดฝากของทั้งที่ยังหิวน้ำมาก เมื่อไปถึงก็จำหมายเลขไม่ได้ และไม่รู้ว่าถูกผู้ประสงค์ร้ายเอาไปหรือยัง สภาพผมตอนนั้นเริ่มแย่ ขายังเป็นตะคริว กลับบ้านเองไม่ได้แน่จึงเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่รับฝากของฟัง และถือโอกาสขอเหรียญบาทเพื่อโทรศัพท์ให้น้องชายมารับ ช่วงนั้นสมองเริ่มตื้อ จำเบอร์โทรศัพท์ที่ปกติเคยโทรประจำไม่ได้ ,จำวิธีกดดูmemory หมายเลข โทรศัพท์ในนาฬิกาCASIO ที่ใส่ประจำไม่ได้ มือก็สั่น

แต่ในที่สุด กดแบบลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆก็หาหมายเลข โทรศัพท์พบและโทรศัพท์ให้น้องชายมารับ , โดยใช้ประมาณ45 นาทีน้องชายก็มาถึงก่อนกลับบ้านได้แวะดู จุดฝากของอีกครั้ง ผมพบ เป้ของผมอยู่ เป็นใบสุดท้ายจึงขอรับคืน โดยใช้ใบหน้าเทียบกับรูปในบัตรประชาชนที่อยู่ในเป้เป็นหลักฐาน

เมื่อกลับถึงบ้าน กินอะไรไม่ได้เลยอาเจียรออกหมด สุดท้ายต้องให้น้ำเกลือ 2 กระปุก และ ลาป่วยหยุดงาน 1 วัน

 จากการสอบถามผู้รู้ สรุปว่าอาการของผมน่าจะเป็น อาการ DEHYDRATION.

แต่ผมยังคาใจอยู่ว่า”คนที่ขอหมายเลขวิ่งผมมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่”

และ “ทำไมต้องกันคนไม่มีหมายเลขที่หน้าอกออกจากการแข่งขัน”

 

ผมหวังว่าบทความประสบการณ์ จากการวิ่งในครั้งนี้คงจะเป็นประโยชน์กับนักวิ่ง , ผู้จัดการแข่งขันการวิ่งไม่มากก็น้อย.

 

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่15 ก.ค.45<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>