พัทยา มาราธอน กับ หญิงตุ้ย

ตุ้ยเข้าร่วมแข่งขันที่พัทยา มาราธอน เมื่อตอนกลางปีนี้ ก็ตื่นเต้นเพราะเจอทั้งนักแข่งหน้าเดิมและหน้าใหม่ ๆ ทั้งชาวต่างชาติอีก แถมตัวเองก็ซ้อมน้อยอีก แต่ก็คิดว่าเราจะต้องวิ่งให้ถึงจุดหมายปลายทางให้ได้ พอปล่อยตัวก็อยู่ คนสุดท้ายเลย ไม่อยากออกตัวแรงเดี๋ยวจะไปไม่ถึงดวงดาวซะก่อน ก็วิ่งไปเรื่อย ๆ คิดแต่เรื่องที่สนุกๆ แล้วเวลารู้สึกว่าเราเริ่มตัวเบาแล้ว ก็ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น 21 กม.แรกรู้สึกสบายมาก แต่พอผ่าน กม.ที่ 25 ไปแล้ว รู้สึกทันทีว่า โอ๊ย ! ขาเริ่มหนักอีกแล้ว และตัวเองก็อยู่ อันดับ 6  ก็ผ่อนลงแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วจนแซงมา เป็นอันดับ 5 แต่คราวนี้ตุ้ยมีปัญหา เจ็บเท้าทั้งสองมาก รู้สึกว่าแต่ละก้าว ที่เหยียบลงไป เหมือนเท้าจะแตก สุดท้ายก็วิ่งบ้าง เดินบ้าง จนตามพวกกลุ่มผู้ชาย เลยเกาะเค้ามาเรื่อย ๆ ถึง กม.ที่ 37 จึงแวะ เข้าไปนวด ก็เจอนักวิ่งที่อยู่อันดับ 4 นวดอยู่ก่อนแล้ว เกิดแรงฮึดขึ้นมาอีกเฮือกหนึ่ง พอนวดเสร็จก็อัดหนีเลยลืมความเจ็บปวด จนถึงเส้นชัย ปรากฏว่าทิ้งอันดับที่ 5 มา 4 กม. ( 20 นาที) แถมเก็บนักวิ่งชายได้อีกเกือบ 10 คน ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่บางคน นึกว่าตุ้ยเป็นนักวิ่งต่างชาติ ก็เลย เออ ออไปกับเขาด้วยค่ะ รับถ้วยรางวัลแล้ว กลับถึงที่พัก BOSS ( MR.THOMAS TAPKEN ) ยังไม่เชื่อเลยว่าได้ที่ 4 เพราะวิ่งช้ามาก เนื่องจากขาดการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องไป 3 วัน อ้อ ! ไม่ใช่ค่ะ 3 เดือน ช่วงนั้นทำงานรอบบ่ายค่ะ

ตุ้ยตื่นนอนตี 4 ทุกวัน ถึงที่ทำงานตี 5 ครึ่ง ทำงาน 6 โมงเช้า ถึง 3 โมงเย็น ช่วงนี้ต้องสอนลูกน้องอีก 1 ชม. ไปถึงสนามซ้อมวิ่ง (สนามกีฬาหัวหมาก) ประมาณ 5 โมงเย็น ซ้อมวิ่ง และคลายกล้ามเนื้อ 1 ชม.กว่า นั่งคุยกับเพื่อน นักวิ่งด้วยกันบ้าง กลับบ้านทานข้าวเย็น อาบน้ำ นอน ประมาณ 4 ทุ่มค่ะ บางวันก็นอนเที่ยงคืน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ภูมิใจคือ การที่เราวิ่งได้ จนถึงเส้นชัย ก็ถือว่าเราทำสำเร็จแล้ว ส่วนอื่น ถือเป็นผลกำไร ค่ะ เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่กำลังลังเลว่าเราจะทำได้หรือ ขอบอกค่ะ ถ้ามีความตั้งใจ ทุกคนทำได้ค่ะ จะเอาใจช่วยนักวิ่ง รุ่นใหม่นะคะ

 ตุ้ย-ชนาพร สุขกะใจ ทีม อมารี รันเนอร์ ( รร.อมารีวอเตอร์เกท ประตูน้ำ )