|
ความรู้สึกหลังจากคว้าแชมป์ซีเกมส์ สองเหรียญทองจากวิ่งในระยะ
5,000.- เมตร และ
10,000.- เมตร
ในการแข่งขันวิ่ง 10,000.- เมตร
ซึ่งเป็นรายการแรก รู้สึกหนักใจมาก เพราะคู่แข่งวิ่งดีเหลือเกินในระยะนี้
แต่พอชนะคู่แข่งได้ ก็รู้สึกดีใจมาก
(ทำเวลาได้ 29.29 นาที )เพราะระยะนี้เป็นเหรียญประวัติศาสตร์ที่คนไทยไม่เคยได้
และเป็นการชนะคู่แข่งขันที่เป็นเต็ง 1
ในบ้านของเขาเอง และก็สร้างความมั่นใจในการแข่งขันวิ่ง 5,000.-เมตรใน
สองวันถัดมา
ในการแข่งขัน 5,000.-เมตร
ก็รู้สึกมั่นใจ แต่พอเหลือระยะทาง 120 เมตรสุดท้าย
จังหวะที่จะแซงก็มีเหตุการณ์ที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น
ตามที่ทุกคนได้เห็นแล้ว
ช่วงเวลาตอนนั้นรู้สึกว่าเราทำไมต้องโดนแบบนี้
และก็เสียความรู้สึกมากกับนักวิ่งคนนี้
แต่พอโค้ชทำการประท้วงสำเร็จก็รู้สึกดีใจ
ทำเวลาได้ 14.15 นาที ครับ
และพอกลับมาถึงไทย ก็รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากเพราะรู้ว่ามีพี่น้อง และคนไทย
คอยให้กำลังใจมากมาย
และรู้สึกว่าเราเจอแต่สิ่งดีๆอะไรหลายอย่างตามมาหลังจากที่เราเจอเหตุการณืไม่ดีที่ฟิลิปปินส์
สิ่งดีๆที่เข้ามาในชีวิตในปีนี้มากมายจะบอกว่าเป็นปีทองของผมก็ว่าได้
สำหรับนักวิ่งระยะไกลคนนี้
บุญถึง ศรีสังข์
เขียนเมื่อ 18
ธันวาคม 2548
การเดินทางไปฟิปปินส์
เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
พอลงจากเครื่อง
ณ.กรุงมานิลา อากาศที่นั่นไม่ค่อยปลอดโปร่งเหมือนบ้านเราเลย
รถก็เยอะการจราจรติดมาก ใช้รถบัสในการเดินทางเข้าที่พัก
ผมรู้สึกอ่อนเพลียมาก
เนื่องจากอากาศต่างจากบ้านเรา มันรู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้
พอเข้าดรงแรม
กินอาหารเย็นเสร็จก็พักผ่อน
รู้สึกว่าบ้านเขาไม่ค่อยตื่นเต้นกับกีฬาซีเกมส์สักเท่าไหร่เลย
ทั้งที่จะมาถึงใน 1-2 วันนี้แล้ว
พอตอนเช้าวันที่ 24
พวกผมทีมทางไกล ก็นัดกันเพื่อที่จะไปฝึกซ้อมที่สวนหย่อมใกล้ๆที่พัก
ตามโปรแกรมที่โค้ชได้เขียน ทั้งเช้าและเย็น จนถึงวันแข่งขัน
จนเราได้สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศที่นั่นได้พอสมควร
และก็พร้อมที่แข่งขันเต็มที่ จะมีก็แต่อาการไอที่เรื้อรัง
ตั้งแต่หลังอินดอร์เกมส์
พอถึงวันแข่งขันแรก
แข่ง 10,000 เมตร และวันที่สองก็แข่งขัน 5,000 เมตร
ทีมกรีฑาแข่งเสร็จวันที่ 30 พ.ย.48 เดินทางกลับไทยวันที่ 1 ธ.ค.48
แต่สำหรับระยะไกล
(ตั้งแต่ 1,500 เมตร ถึงมาราธฮน) ต้องอยู่ต่อวันที่ 4 ธันวาคม
เพราะต้องรอเชียร์พี่บุญชู จันทร์เดชะ แข่งมาราธอนในวันที่ 4 ธ.ค.48
ก่อน จึงจะกลับ
สำหรับมาราธอนนั้นก็สามารถคว้าเหรียญทองได้อีกเหรียญ
พวกราระยะไกลรู้สึกดีใจและมีความสุขมาก
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยกลางดึกวันที่ 4
มีพ่อแม่พี่น้องมารอรับที่ดอนเมืองเป็นจำนวนมาก
พวกผมรู้สึกอบอุ่นมากและก้ดีใจมากครับ
บุญถึง ศรีสังข์
20 ธันวาคม 2548
หมายเหตุ.- บุญถึง
เด็กหนุ่มจากบุรีรัมย์ บ้านเลขที่ 19 หมู่ 10 ต.วังเหนือ
กิ่งอ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
เกิดเมื่อ 30
พ.ค.2524
เลือดกรุ๊ป โอ
(สิบอกให่....บอกไว้ ให้นักวิ่งเลือดกรุ๊ปนี้กระดี๊กระด๊าเล่นๆ
อาจเป็นคุณก็ได้เหรียญทอง คนต่อไป ฮ่าๆๆๆ)
เพิ่มเติม จากมติชน
"บุญถึง"
หวิดเสียแชมป์ 5
พันเมตร
บุญถึง ศรีสังข์
แชมป์เก่าวิ่ง 5,000
เมตรชายเมื่อ
2
ปีที่แล้ว
หวิดเสียแชมป์หลังถูกคู่แข่งเจ้าภาพ เอดูอาร์โด้ บัวนาวิสต้า
ทำฟาวล์น่าเกลียดชักศอกใส่สีข้างในช่วง
5
เมตรสุดท้ายและเบียดเข้าเส้นชัยอย่างเฉียดฉิว
ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายบุญถึงพยายามจะแซงบัวนาวิสต้า
แต่นักวิ่งฟิลิปปินส์วิ่งกันไม่ให้แซงอย่างน่าเกลียด
จนเป็นเหตุให้นักวิ่งไทยเสียหลักสะดุดขาตัวเอง แต่ก็พยายามเบียดมาติดๆ
และเข้าเส้นชัยไล่เลี่ยกัน
อย่างไรก็ตาม ทาง
"โค้ชแฝด" พล.ต.ต.สุรพงษ์ และพ.ต.อ.ศุภณัฐ อริยะมงคล
ได้เข้าไปประท้วงนายมอริซ นิโคลัส
เลขาธิการสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชียเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ซึ่งหลังจากหารือนานเกือบชั่วโมง พล.ต.ต.สุรพงษ์
เลขาธิการสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า
ภาพจากวิดีโอเทปเห็นชัดเจนว่าคู่แข่งกระแทก ซึ่งทางผู้แทนสหพันธ์ฯ
ก็ยอมรับว่านักกีฬาฟิลิปปินส์กระแทกบุญถึงจริงๆ
จึงกลับคำตัดสินให้เหรียญทองเป็นของบุญถึงแทน และปรับบัวนาวิสต้าแพ้
ทำให้เหรียญเงินและทองแดง เป็นของ จูเลียส แซร์โมน่า (ฟิลิปปินส์) สถิติ14.15.09
นาที และอำนวย
ต้องมิตร สถิติ 15.24.05
นาทีตามลำดับ
copy from
http://www.matichon.co.th/seagames2005/index.php?sid=2&select_date=%
จากข่าวสด 29 พ.ย.2548
"บุญถึง"คว้าทองเพิ่มวิ่งหมื่นเมตร
ช่วงเย็น ทีมกรีฑาไทยสามารถคว้ามาได้อีก 1 เหรียญทอง
ประเภทวิ่ง 10,000 เมตร จากบุญถึง ศรีสังข์ นักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติไทย
เจ้าของเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่แล้ว โดยบุญถึงวิ่งตามหลังผู้นำมาตลอด
ก่อนจะเร่งสปีดสุดชีวิตแซงนักกีฬาจากชาติเจ้าภาพฟิลิปปินส์ในรอบสุดท้าย
คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 29.55 นาที
นับเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 3
ของทีมกรีฑาไทยในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้อีกด้วย
ส่วนเหรียญเงิน ได้แก่ เอดูอาร์โด เบานาวิสต้า เวลา 29.49.77 นาที และ
จูเรียส เซอร์โมน่า 30.45.46 นาที สองนักวิ่งจากเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์
(ข่าวสด 2005/11/29)
.........................................................................
จากคอลัมน์ขอบสนามซีเกมส์
กรีฑา-เทควันโดความเหมือนที่แตกต่าง
...................
........................
................ในทางกลับกันกีฬาใช้สถิติ
อย่างกรีฑาเจ้าของเป้าหมาย 13 เหรียญทองซึ่งดูอย่างไรก็เป็นกีฬาที่โกงยาก
โกงลำบาก และไม่รู้ว่าจะโกงกันแบบไหนดี จะมีเพียงในรายของวิ่ง 5000 เมตร
ของบุญถึง ศรีสังข์ เท่านั้นที่ถูก เอดูอาร์โด เบานาวิสต้า
ปอดเหล็กเจ้าถิ่นหน้าด้านวิ่งตัดเลนมาชักศอกใส่อย่างน่าเกลียด
ซึ่งรายการนี้ประท้วงสำเร็จเพราะเทปวิดีโอมันฟ้อง แต่กระนั้น 11
เหรียญทองที่ทำได้ทัพกรีฑาก็ไม่ถึงฝันเช่นกัน
ส่ง"บุญถึง"ฟิตนอกลุ้นเหรียญอชก.
พ.ต.อ.ศุภณัฐ
อริยะมงคล หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชกรีฑาทีมชาติไทย
เปิดเผยว่า
สมาคมวางแผนที่จะผลักดันและให้การสนับสนุนบุญถึง ศรีสังข์
นักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติไทยที่คว้า 2
เหรียญทองจากการวิ่ง
5,000
เมตร และวิ่ง
10,000
เมตรในการแข่งขันซีเกมส์
ครั้งที่ 23
ก้าวไปสู่ความสำเร็จระดับเอเชีย
เพราะพิจารณาจากสถิติที่ทำได้ในการวิ่ง 10,000
เมตรที่ทำได้
29.29
นาทีแล้ว
หากมีการเก็บตัวและฝึกซ้อมที่ดี บุญถึงน่าจะทำสถิติได้ในระดับ
28
นาทีกว่าๆ
ซึ่งสถิติที่ว่านี้ติดอันดับ 1
ใน
3
ของเอเชียได้สบาย
และก็มีสิทธิลุ้นเข้ารอบสุดท้ายโอลิมปิคเกมส์
2008 ที่จีนได้เช่นกัน
"บุญถึงเป็นนักกีฬาที่มีความรับผิดชอบ
ขยัน มุ่งมั่น
และกระตือรือร้นมาก
สมาคมเชื่อว่าหากวางแผนฝึกซ้อมดีๆ
การจะประสบความสำเร็จระดับเอเชียไม่ใช่เรื่องยากเลย
โดยในเบื้องต้นที่วางแผนกันไว้คือ
สมาคมจะส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศกับนักวิ่งเก่งๆ
ระดับโลก
ส่วนจะเป็นที่ใดนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการประสานงาน
นอกจากนี้จะต้องนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยอย่างเต็มรูปแบบ
ตอนนี้เราไม่ได้มองแค่ระดับเอเชียเท่านั้น แต่มองไปไกลถึงโอลิมปิค
2008
หากทำกันดีๆ
มีสิทธิเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในโอลิมปิคได้เลย"
พ.ต.อ.ศุภณัฐกล่าว
ทางด้านบุญถึงกล่าวว่า
แม้จะประสบความสำเร็จในซีเกมส์และได้เงินรางวัลจากการเล่นกีฬามา
2
ล้านบาทแล้วก็ตาม
แต่ยังหวังที่จะประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเอเชี่ยนเกมส์
ครั้งที่ 15
ที่กาตาร์ ในปลายปีนี้
แต่อย่างไรก็ตาม
ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่ง
เพราะชาติตะวันออกกลางมีการโอนสัญชาตินักกีฬาเก่งๆ
จากทวีปแอฟริกามาร่วมการแข่งขันครั้งนี้
ซึ่งสถิติตนที่ทำได้ในเวลานี้ยังห่างไกลจากนักวิ่งระดับโลกเหล่านี้อยู่พอสมควร
จากมติชน
5 มกราคม2549
|
