<% Set FileObject = Server.CreateObject("Scripting.FileSystemObject") Dir = Request.ServerVariables("SCRIPT_NAME") Dir = StrReverse(Dir) Dir = Mid(Dir, InStr(1, Dir, "/")) Dir = StrReverse(Dir) HitsFile = Server.MapPath(Dir) & "\hitcounter\hits_2kk_marathon_by_apisit.txt" On Error Resume Next Set InStream= FileObject.OpenTextFile (HitsFile, 1, false ) OldHits = Trim(InStream.ReadLine) NewHits = OldHits + 1 Set OutStream= FileObject.CreateTextFile (HitsFile, True) OutStream.WriteLine(NewHits) %> 2มินิฯที่ขอนแก่นมีคุณค่ามากโดยอภิสิทธิ์

ผู้เยี่ยมชมตั้งแต่วันที่27ส.ค.48<% L=Len(NewHits) i = 1 For i = i to L num = Mid(NewHits,i,1) Display = Display & "" Next Response.Write Display %>

 

2เหรียญที่ขอนแก่น
จุดประกายทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม

โดย..คุณอภิสิทธิ์  รุจิเกียรติกำจร

ตอนที่1

 

        หลังจากการวิ่งที่ดอนเมืองโทลย์เสร็จ รู้สึกว่าหัวใจพองโตด้วยความภาคภูมิใจและเกิดความมั่นใจอย่างมากว่าจะวิ่งขอนแก่นมาราธอน ประเภทมินิได้อย่างสบาย

        วันที่ 25 มค.47 ตื่นแต่ตี 4 เดินทางไปถึงสนามวิ่งประมาณตี 5 เศษ ๆ เจอนักวิ่งมินิมากมายสัก 3,000 คนเห็นจะได้ อากาศหนาวเย็นมากทีเดียว มีนักวิ่งเด็ก ๆ อายุราว ๆ 10 ขวบถึง 15 ขวบ รูปร่างเล็ก ๆ ค่อนข้างผอมเซียวจำนวนมากและส่วนใหญ่ไม่ใส่รองเท้า นึกในใจว่าเด็กพวกนี้จะวิ่งถึงหรือนี่ เจอเพื่อน ๆ และพนักงานของบริษัทหลายคน พนักงานบางคนเปลี่ยนจากประเภทเดินวิ่ง 4 กม.มาเป็นวิ่งมินิ ตามคำเกลี้ยกล่อมของผม ถึงเวลาปล่อยตัวผมก็ใช้ประสบการณ์เดิมที่เคยวิ่งในดอนเมืองโทลเวย์มาแล้ว คือ เดินเร็วใน 3 กม.แรก  เนื่องจากตอนปล่อยตัวผมอยู่ในแถวหน้า ดังนี้จึงมีคนแซงผมขึ้นมาเป็นพรวน เห็นจำนวนคนแล้วก็ใจแป้วเล็ก ๆ  เด็ก ๆ ผอมเซียวที่วิ่งเท้าเปล่าก็แซงขึ้นไป เพื่อน ๆ ของผมหลายคนก็แซงขึ้นไปหลังจากรักษาสปีดของการเดินเร็วได้ 3 กม. ตามที่ได้ตั้งใจแล้วก็เริ่มออกวิ่ง ช่วงนั้นอยู่บนถนนมิตรภาพและเริ่มเป็นทางขึ้นไปสู่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นด้าน มอดินแดง ( คำว่ามอในภาษาอิสาน แปลว่า เนินสูง ) ช่วงขึ้นเนินจึงค่อนข้างยาวและกินแรงเป็นอย่างยิ่งแต่การเดินเร็วของผมก่อนหน้านี้เป็นการวอร์มอั พอเริ่มวิ่งก็เป็นช่วงที่จะขึ้นเนินพอดี ผมทำได้ดีพอสมควร   เห็นเพื่อน ๆ ที่วิ่งแซงผมแถว ๆ จุดสตาร์ทวิ่งอยู่ข้างหน้าผมไม่ไกลเท่าไหร่  ก่อนจะเข้าสู่ประตูมอดินแดง ( ระยะทางประมาณ 5 กม. ) ผมก็เริ่มแซงเพื่อนบางคนแล้ว มาทราบภายหลังว่าเพื่อนไม่เคยไปวิ่งที่ไหนมาก่อน พอออกวิ่งก็สปริ้นท์มาเลยและยิ่งต้องขึ้นมอดินแดงด้วยแรงก็เลยตก เข้าประตูแล้วพบกองเชียร์ที่เป็นนักศึกษาทั้งหญิงและชายเชียร์ให้กำลังใจกันดังสนั่นก็รู้สึกฮึกเหิม บริเวณนี้จะต้องขึ้นเนินสูงอีก แต่เป็นช่วงสั้น ๆ ถ้าไม่มีกองเชียร์สงสัยต้องลดความเร็วลงเหลือแค่เดินเร็วเป็นแน่ แต่ด้วยแรงเชียร์จึงวิ่งผ่านไปได้ ตลอดทางที่เหลือก็วิ่งสบายแล้ว

วิ่งเข้าเส้นชัยด้วยความภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง มาดูประกาศนียบัตรภายหลังรู้ว่าใช้เวลา 1 ชั่วโมง 18 นาที 57 วินาที แต่ระยะทางแค่ 10.55 กม. เขาเรียกว่าควอเตอร์มาราธอน ปีนี้เขาติดแชมเปี้ยนชิปส์ให้เฉพาะผู้ที่วิ่งฟุลมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอนเท่านั้น ส่วนควอเตอร์ไม่มีชิปส์เวลาที่ได้จึงไม่นับว่าเป็นมาตรฐานอย่างแท้จริง

                ผมเห็นเด็ก ๆ ที่ผอมเซียวยืนเท้าเปล่าแถวบริเวณเส้นชัยอยู่หลายคน แสดงว่าวิ่งเข้าก่อนหน้าผม จะนานเท่าไรไม่รู้  รู้แต่ว่าเด็กบางคนมีเลือดไหลที่เท้าด้วย เพื่อน ๆ ที่มาวิ่งครั้งแรกในชีวิต รวมทั้งผู้ที่ถูกเกลี้ยกล่อมให้เปลี่ยนจากเดินวิ่ง 4 กม.มาเป็นควอเตอร์ก็เข้าเส้นชัยภายในเวลาที่กำหนด คือ 1 ชม.30 นาที ได้เหมือนกัน คนเหล่านี้นอกจากจะกลายเป็นนักออกกำลังกายโดยการวิ่งสม่ำเสมอแล้ว ยังเป็นพรพากานดิสท์  ทำให้เกิดสมาชิกมาร่วมวิ่งได้อีกมากคนทีเดียว

 

 

                                   ตอนที่ 2

 

            หลังจากกลับมาจากการวิ่งขอนแก่นมาราธอนครั้งที่ 1 แล้ว ทุกคนที่ได้ไปวิ่งมาต่างก็ชื่นชมกับประกาศนียบัตรที่สวยงาม มีรูปของตนเอง ขณะวิ่งเข้าเส้นชัย พร้อมกับเวลาที่วิ่งได้  มันเป็นสิ่งมีค่ามากจริง ๆ  พวกพนักงานในบริษัทก็รวมตัวกันจัดตั้งชมรมเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพขึ้น มีผมเป็นประธานชมรม เรามีกิจกรรมวิ่งสะสมแต้ม  การประกวดสุขภาพที่ดีขึ้นจากการออกกำลังกาย ฯลฯ  สมาชิกอย่างน้อยครึ่งหนึ่งตั้งใจจะไปลงวิ่งขอนแก่นมาราธอนครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 มค. 48 และเริ่มฟิตร่างกายซ้อมในระยะต่าง ๆ  ลงวิ่งในรายการมินิมาราธอนบางรายการ

           และแล้ววันที่ 22 มค. 48 พนักงานบริษัทมากกว่า 250 คน รวมทั้งเพื่อน ๆ ของผมอีกจำนวนหนึ่งก็เดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เราใส่เสื้อสีเหลืองดอกคูณที่เขาแจกให้นักวิ่ง ด้วยว่าทางผู้จัดการแข่งขันได้แจกเสื้อนับหมื่นตัวแก่คนในเมืองด้วย คนขอนแก่นส่วนใหญ่ก็มีเสื้อสีเหลือง ซึ่งเขาใส่กันทุกวันศุกร์อยู่แล้ว เมื่อทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองดอกคูณก็ดูอร่ามไปหมด พวกเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของคนเมืองไปด้วย ดูคึกคักดี

          คืนนั้นผมนอนไม่ดึกนัก แต่ก็หลับได้ไม่ค่อยดี เพราะเป็นห่วงเรื่องการจัดการแข่งขัน เพราะมีหลายเรื่องที่จะปรับปรุงตามที่ได้รับการร้องเรียน เกรงว่าจะทำได้ไม่ดีแล้วจะถูกนักวิ่งตำหนิอีก เรื่องอาหารที่จัดเลี้ยงจะเพียงพอกับสำหรับนักวิ่งหรือไม่ และเรื่องอื่น ๆ อีกมาก อย่างไรก็ตามตื่นตี 4  ไปถึงสนามวิ่ง ตี 5 เศษ เช่นเคย  การวิ่งมินิมาราธอนครั้งนี้มีระยะวิ่ง 11.55 กม./เวลาวิ่งไม่เกิน 1 ชม. 45 นาที  และมีการติดแชมเปี้ยน-ชิปส์ให้ด้วย อากาศวันนั้นไม่หนาวเย็นเท่ากับปี 47  แต่ก็ยังเย็นดีใช้ได้ มีนักวิ่งมากกว่าปีที่แล้วมาก เด็ก ๆ ผอมเซียวแบบปีที่แล้วก็มีมากเหมือนเดิม แต่ปีนี้ถึงพวกเขาจะวิ่งเท้าเปล่า แต่มีผ้าเช็ดหน้าผูกไว้ที่ข้อเท้าข้างหนึ่งแล้วจึงเอาแชมเปี้ยนชิป ติดที่ผ้าเช็ดหน้านั้นอย่างเข้าใจทำ

            ก่อนถึงเวลาปล่อยตัว มีการสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ เพราะมีการถ่ายทอดสดโดยสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 มีดารา นักร้อง มาสร้างสีสรร ผมอยู่แถวหน้า เด็ก ๆ ที่ผมพูดถึงก็มาเบียดอยู่แถวหน้าหลายคน เพราะอยากจะออกวิ่งก่อน โดยไม่รู้ว่าแชมเปี้ยนชิปส์นั้น จะจับเวลาสุทธิไม่ว่าจะออกก่อนออกหลัง ก็ไม่มีใครเสียเปรียบใคร  ประมาณ 6 โมงเศษก็ปล่อยตัว ผมไม่เดินเร็วอย่างที่เคยทำ แต่ก็เริ่มจ๊อกด้วยความเร็วต่ำและหลบชิดทางขวามือ ปล่อยให้คนที่วิ่งเร็วได้แซงซ้ายขึ้นไป และก็เหมือนเคยนักวิ่งจำนวนมาก วิ่งแซงผมขึ้นไปนับเป็นพันคน

        เมื่อมาถึง กม.ที่ 3 หรือ ที่ 4 เริ่มเป็นทางขึ้นเนินสู่มอดินแดง ระยะทางขึ้นเนินนี้กินแรงอย่างที่เคยเล่าไว้ แต่ความที่อยากจะทำเวลาได้ดีกว่าเดิม จึงไม่ค่อยได้ถนอมแรงเท่าไร พอเข้าเขตประตูมอดินแดง เห็นกองเชียร์ที่เป็นนักศึกษาทั้งชายและหญิง มีคนตะโกนมาบอกว่าเหลืออีก 4 กม. ก็รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น แต่เนินข้างหน้าแม้จะมีระยะทางสั้น ๆ แต่ก็รู้สึกหนักเอาเรื่อง เพิ่งนึกได้ว่า เมื่อคืนนี้หลับไม่ค่อยจะดี จึงคาดเดาว่าการนอนหลับดีนั้นสำคัญ และการไม่เร่งมากในช่วงแรกน่าจะเป็นการวิ่งที่เหมาะกว่า  วิ่งไปอีก 2 กม.จึงเห็นป้ายที่เขียนว่าเหลืออีก 4 กม. แต่ทางวิ่งที่เหลือไม่มีอะไรให้ห่วง

 เลยเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชม. 26 นาที 38 วินาที เป็นอันดับที่ 1,245  และตำแหน่งที่ 53 ของกลุ่มอายุ จากรายงานผลการวิ่งผมเห็นว่ามีรายชื่อของเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ทำเวลาได้ในระดับ ดีและดีมาก จำนวนไม่น้อย ซึ่งทำให้ผมมองเห็นศักยภาพของเยาวชนไทยของเราขึ้นมาทันที

 

เขียนโดย...นายอภิสิทธิ์  รุจิเกียรติกำจร
รอง กก.ผจก.ใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ

Click  เช็คราคาน้ำมันปตท.ได้ที่นี่ http://www.pttplc.com/th/default.asp

และประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น

คลิกขอนแก่นมาราธอนครั้งที่3ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ www.khonkaenmarathon.com

จดบันทึกเมื่อ 26 สิงหาคม2548